'สคร.' ไม่การันตีผลตอบแทน TTF

'สคร.' ไม่การันตีผลตอบแทน TTF

สคร.เผยยังไม่สรุปผลตอบแทน กอง “ไทยแลนด์ฟิวเจอร์”

สคร. เผยกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ยังไม่สรุปผลตอบแทนต้องรอสำรวจความต้องการก่อน ส่วนการจัดสรรจะเปิดโอกาสให้รายย่อยมากที่สุด ระบุโครงการมีอนาคตและเพิ่มทุนขยายกองทุนได้ ยันผลตอบแทนไม่การันตี ด้านบลจ.บัวหลวงชี้ผลตอบแทนที่ 7-8% น่าสนใจ 

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ว่า ล่าสุดทางคณะกรรมการการลงทุน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้คัดเลือก 2 โครงการสำหรับเส้นทางที่เข้ามาอยู่ในกองทุนแล้ว คือ ทางพิเศษเส้นเอกมัย-รามอินทรา และเส้นบูรพาวิถีมุ่งหน้าพัทยา โดยเงินจากการขายหน่วยลงทุน จะนำไปสร้างเส้นทางใหม่ คือ พระราม 3 - ดาวคะนองวงแหวนรอบนอก

สำหรับกองทุนดังกล่าว คาดว่าจะเสนอขายครั้งแรกในวงเงิน 40,000-50,000 ล้านบาท ส่วนมูลค่าแท้จริงของกองทุนจะเป็นเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) โดยจะเป็นตัวกำหนดผลตอบแทน และจะไม่มีการันตีผลตอบแทนเนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างเสร็จและมีรายได้แล้ว (Brownfield) ซึ่งเห็นรายได้จากจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นในเส้นทางดังกล่าว โดยจะมีการกำหนดสัดส่วนระหว่างผู้ลงทุนรายย่อยและสถาบัน แต่จะเปิดโอกาสให้รายย่อยมากที่สุด ใช้เกณฑ์ Small Lot First คือ ให้ผู้จองซื้อจำนวนน้อยได้สิทธิในการจองซื้อก่อน

ขณะที่ในอนาคตหากภาครัฐนำสินทรัพย์เข้าระดมทุนในกองทุนดังกล่าว สามารถใช้วิธีการเพิ่มทุน ถือว่าเป็นกองทุนที่มีโอกาสเติบโตได้ โดยขณะนี้กำลังพิจารณานำทางด่วนมอเตอร์เวย์สาย 7 และ 9 เข้ากองทุนในระยะถัดไป

ก่อนหน้านี้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่าผลตอบแทนของกองทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 7-8% 

กองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ กำหนดยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต.ช่วงเดือน มี.ค. และคาดเปิดขายกองทุนเป็นครั้งแรกได้เดือนพ.ค.-มิ.ย. 2560

ด้านนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน บลจ. บัวหลวง กล่าวว่า หากผลตอบแทนกองทุนที่ 7-8% ถือว่าน่าสนใจมาก ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน เช่น กองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทประกัน รวมถึงนักลงทุนต่างประเทศด้วย ภายใต้ทิศทางดอกเบี้ยในปีนี้ยังอยู่ระดับต่ำ 

ในส่วนของบริษัทขอศึกษารายละเอียด ประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนคาดหวัง เช่น รายได้ที่มาจากผู้ใช้บริการ และกระแสเงินสด ซึ่งเบื้องต้นมองว่า โครงการที่เข้ามาอยู่ในกองทุนเป็นเส้นทางที่มีรถยนต์มาใช้บริการเพิ่มขึ้นและเส้นมอเตอร์เวย์มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น รวมถึงเส้นบูรพาวิถีที่ขยายไปเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งได้ทั่วประเทศ น่าจะมีกระแสรายได้ที่สามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ลงทุนได้ตามที่คาดหวัง