สั่งอายัดอาคารดาวดึงส์-รุดตรวจอุโมงค์ลับ

สั่งอายัดอาคารดาวดึงส์-รุดตรวจอุโมงค์ลับ

สั่งอายัดอาคารดาวดึงส์ ห้ามเข้า-ห้ามย้ายสิ่งของ เตรียมค้นรอบวัดต่อ พร้อมเปิดฮอตไลน์ 1202 รับแจ้งเบาะแส "ธัมมชโย" ประสานตม.เช็คข้อมูลเผ่นนอก

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ แถลงผลการตรวจค้นวัดพระธรรมกายตลอด 2 วันที่ผ่านมาได้เข้าค้นพื้นที่โซนเอ บี ซี ทุกอาคารทุกห้อง ไม่พบบุคคลตามหมายจับแต่ยังมีความจำเป็นต้องตรวจค้นพื้นที่ควบคุมภายนอกวัดพระธรรมกาย หลังจากนี้เจ้าหน้ามี่จะแจ้งให้วัดทราบว่าจะอนุญาติให้เข้าออกวัดในประตูใด และเข้าใช้พื้นที่ใดได้บ้าง โดยจะประเมินความเหมาะสมที่ต้องคงประกาศพื้นที่ควบคุมตามสถานการณ์

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนยังมีข้อสงสัยในการตรวจพบอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะไฮเปอร์บาลิค แชมเบอร์ ที่เคยใช้เป็นห้องรักษาของพระซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวจะใช้รักษาผู้บาดเจ็บจากกาดำน้ำ และจะประสานผู้เชี่ยวชาญให้เข้าตรวจสอบว่าเป็นอุปกรณ์การแพทย์ชนิดใด ดังนั้นจึงต้องใช้อำนาจคสช.อายัดอาคารดาวดึงส์ห้ามบุคคลเข้าออกและขนย้านสิ่งของทั้งตัวอาคาร และจะคงกำลังบางส่วนรักษาพื้นที่รอบวัด และพื้นที่ภายในบางส่วน ทั้งนี้เพื่อรักษาความสงบเรีบบร้อยและป้องกันภัยแทรกซ้อน ในวันพรุ่งนี้ ( 18 ก.พ.) จะมีการตรวจค้นต่อเนื่องแต่ไม่ขอเปิดเผยจุดและจะเป็นการปฏิบัติการรอบบริเวณวัด ทั้งนี้แม้การตรวจค้นทั้ง 2 วัน จะไม่พบบุคคลตามหมายจับ แต่ชุดสืบสวนยังมีหน้าที่สืบสวนเพื่อติดตามจับ หากประชาชนมีเบาะแสข้อมูลความเคลื่อนไหวขอให้แจ้งสายด่วน 1202

สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับอุโมงค์ใต้อาคารภาวนา 60 ปีซึ่งอาจใช้เป็นเส้นทางหลบหนีออกนอกวัด พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ ได้นำสื่อเข้าพิสูจน์ทราบว่าบริเวณใต้ดินใช้สำหรับกักเก็บน้ำและบำบัดน้ำหมุนเวียนไปใช้เป็นน้ำตก บริเวณด้านบนอาคารมีความสูงประมาณตึก 12 ชั้น ทางเข้าอยู่ด้านข้างอาคาร ภายในอาคารเป็นทางเดินรูปตัวยู แยกซ้ายขวาด้านละ 1.5 กม. ปลายทางทั้งสองด้านเป็นทางตัน

ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ยืนยันหลังการตรวจค้นจะสามารถชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคมได้แน่นอนแม้จะไม่ได้ตัวก็จะมีคำตอบให้รัฐบาลและสังคมรับทราบข้อเท็จจริง กรณีชองพระธัมมชโยดีเอสไอต้องเข้าค้นเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยมีการเข้าค้นพื้นที่เป้าหมายตามที่การข่าวจากฝ่ายที่แฝงตัวในวัดระบุว่าน่าจะเป็นจุดที่พระธัมมชโยใช้เป็นที่พัก การไม่ได้ตัวผู้ต้องหาไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะหลายคดีมีผู้ต้องหาหลบหนีและไม่สามารถจับกุมตัวได้ ดีเอสไอไม่ได้นิ่งนอนใจแต่ตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานตรวจคคนเข้าเมือง(ตม.) ว่ามีการเข้าออกประเทศในจุดใดหรือไม่ รวมทั้งเร่งหาข่าวการลักลอบเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ผ่านด่านตม. ยันดีเอสไอจะตรวจวัดพระธรรมกายทุกตารางนิ้วจนกว่าจะครบทั้งพื้นที่ระหว่างนี้จำเป็นต้องปิดวัด เพื่อคงพื้นที่ควบคุมตามคำสั่งคสช.มาตรา 44

รายงานข่าวระบุว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านจากการสอบถามบรรดาศิษย์และตัวแทนของวัดพระธรรมกายต่างออกมายอมรับในลักษณะเดียวกันว่าไม่มีโอกาสได้เจอพระธัมมชโยนานแล้ว โดยมักอ้างอาการอาพาธหนักจึงไม่สามารถออกจากห้องปลอดเชื้อได้ สำหรับปฏิบัติการตรวจค้นภายในวัดคาดว่าจะต้องดำเนินการต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะตรวจค้นได้ครอบคลุมทั้งบริเวณ