'11สตรีท’ ทุ่มพันล้านบุกอีคอมเมิร์ซไทย

ยักษ์เกาหลี เจาะโอกาสตลาดอีคอมเมิร์ซหมื่นล้านไทย อัดงบการตลาดปีเดียว ‘พันล้านบาท’ บูมค้าขายออนไลน์ เจาะเป้าหมายหลักวัย 25-35 ปี ชูประสบการณ์เบอร์หนึ่งในเกาหลีใช้กับตลาดไทย ตั้งเป้าครองแชมป์ไทยในอีก 4 ปี

นายฮง โซล จอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีเลฟเว่นสตรีท ประเทศไทย เผยว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยอยู่ในช่วงเริ่มต้นเติบโต หรือมีสัดส่วนเพียง 1% ของตลาดค้าปลีกรวม ขณะที่ตลาดที่ธุรกิจค้าขายออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซพัฒนาแล้ว เช่น ยุโรป อยู่ที่ 10% หรือในเกาหลีใต้ มีสัดส่วนราว 14% ดังนั้นโอกาสเติบโตในไทยจึงยังมีอยู่มาก

นอกจากนี้ อีเลฟเว่นสตรีท ยังมีจุดแข็งในฐานะเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของเกาหลี และเป็นบริษัทในเครือเอสเค เทเลคอม ผู้ให้บริการระบบโทรคมอันดับหนึ่งของประเทศ และตั้งแต่เปิดตัวมาเกือบ 10 ปี มีส่วนแบ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซเกาหลีแล้ว 7 พันล้านดอลลาร์ จากยอดรวม 3 หมื่นล้านดอลลาร์

เทียบกับตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย ซึ่งปีที่ผ่านมามีมูลค่าการซื้อขายทั่วไปราว 6.7 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 8-8.7 หมื่นล้านบาทในปีนี้

“เราเป็นอันดับหนึ่งของเกาหลี ซึ่งการเข้ามาขยายตลาดในไทย ก็น่าจะทำให้ตลาดโตเร็วขึ้น เพราะตอนที่เราทำอีคอมเมิร์ซ ก็เริ่มจากไม่มีอะไร ขณะที่ไทยตอนนี้คนใช้มือถือและอินเทอร์เน็ตเยอะมาก เราเชื่อว่าประสบการณ์ในเกาหลี และการบริหาร รวมถึงแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง จะทำให้อีเลฟเว่นสตรีทโตได้เร็วในไทยด้วย”

นายฮง ระบุว่า ปีนี้บริษัทวางแผนใช้งบการตลาดในไทย 1,000 ล้านบาท โดยช่วง 3 เดือนแรก ของการเปิดตัวคาดว่า จะใช้งบทำแคมเปญการตลาดกว่า 300 ล้านบาท ทำโฆษณาทั้งออฟไลน์ เช่น บีทีเอส และช่องทางออนไลน์ โฆษณาทีวี พร้อมกับตั้งแอมบาสเดอร์ทั้งเกาหลีและไทยคือ “ซงจุงกิ” และ “มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน” เพื่อแนะนำประสบการณ์ช้อปออนไลน์ รวมถึงสะท้อนบุคลิกสนุกสนานของคนไทย และความใกล้ชิดของไทยและเกาหลี

โดยหลังทดลองให้บริการอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่ 21 ธ.ค.2559 จนถึง 31 ม.ค.2560 มียอดผู้เข้าชมอีเลฟเว่นสตรีทแล้วกว่า 14 ล้านครั้ง มีผู้ค้ากว่า 9,000 ราย จำนวนสมาชิก 1.5 แสนคน และมียอดขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม (จีเอ็มวี) แล้วกว่า 200 ล้านบาท เป้าหมายเปิดกว้างสำหรับนักช้อปทุกราย แต่กลุ่มที่เน้นเป็นพิเศษคือช่วงอายุ 25-35ปี และสินค้าที่โดดเด่นคือ กลุ่มแฟชั่นและความสวยความงาม

ทั้งจำนวนสินค้าอีกกว่า 3 ล้านรายการ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสินค้าในไทยราว 90% ส่วนที่เหลือเป็นสินค้าจากเกาหลี จีน และสหรัฐ โดยบริษัทมีแผนจะนำสินค้าจากอีเลฟเว่นสตรีทเกาหลีที่มีกว่า 60 ล้านรายการคัดเลือกมาขายในไทยราว 4 ล้านรายการ โดยใช้ระบบการจัดส่งผ่านเคอร์รี่และไปรษณีย์ไทย

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารอีเลฟเว่นสตรีทมองว่า ไทยเป็นตลาดที่มีผู้ใช้มือถือและอินเทอร์เน็ตสูงที่ใกล้เคียงกับเกาหลีใต้ แต่ก็ยังขาดประสบการณ์ในตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่เชื่อว่า การพัฒนาแพลตฟอร์มให้สะดวกใช้งานง่ายทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย โดยเฉพาะการใช้ผ่านมือถือจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ตลาดตอบรับได้เร็ว

ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดซื้อขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มราว 45 ล้านดอลลาร์ (มากกว่า 1 พันล้านบาท) และมีรายได้ราว 4.5 ลานดอลลาร์ รวมถึงมีแผนขยายตลาดในประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม และฟิลิปปินส์จากปัจจุบันให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วในเกาหลี, มาเลเซีย, ตุรกี และอินโดนีเซีย

พร้อมตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งในไทยให้ได้ภายใน 4ปี