Report & Corporate News (16 ก.พ.60)

Report & Corporate News (16 ก.พ.60)

SPRC ถือ, TOP ถือ, SGF, KTC, IRPC

SPRC    ถือ    ราคาพื้นฐาน 12.20 บาท

บริษัทรายงานกำไรปกติของปี 2016 ที่ 5.5 พัน ลบ. ตามคาด เราได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทในปี 2017-18 ขึ้น 9% เป็น 6.6 พัน ลบ. และ 6.4 พัน ลบ. ตามลำดับ จากนโยบายการลดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ คงคำแนะนำ ถือ จากสาเหตุ a) การดำเนินธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งใน 1Q17, b) ผลตอบแทนที่น่าประทับใจที่ 6.4% ในปี 2017, c) ส่วนต่างน้ำมันเบนซินที่แข็งแกร่งใน 1H17 ด้วยราคาพื้นฐานที่ 12.20 บาทต่อหุ้น (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)


TOP    ถือ    ราคาพื้นฐาน 70.00 บาท

บริษัทรายงานตัวเลขกำไรสุทธิไตรมาส 4Q16 ที่ 5.8 พัน ลบ. มากกว่าคาดที่ 30% คงคำแนะนำ ถือ จากกำไรสุทธิของบริษัทที่คาดว่าจะโตขึ้นเพียง 3.2% ในปี 2017 อย่างไรก็ตามตลาดอาจ re-rate หุ้นในระยะสั้นจากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูงช่วงไตรมาส 1 ตามปัจจัยด้านฤดูกาลรวมถึงการปิดซ่อมบำรุงประจำปีในภูมิภาค นอกจากนี้รัฐบาลอยู่ในระหว่างการพิจารณาลอยตัวราคา LPG ซึ่งอาจช่วยเพิ่มอัตรากำไรให้กับบริษัทได้อีกราว 8% คงคำแนะนำ ถือ ด้วยราคาเป้าหมาย 70.00 ต่อหุ้น (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

SGF

เผยในงานแถลง'แผนการดำเนินงานปี 2560'ตั้งเป้ายอดสินเชื่อคงค้างปลายปี 60 ที่ 2 พันลบ. จากยอดปล่อยปัจจุบัน 800 ลบ. พร้อมรุกธุรกิจใหม่สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์-สินเชื่อทะเบียนรถ-จำนองบ้าน แย้มแผนสรุปดีล M&A ธุรกิจสินเชื่อท้องถิ่น 3-4 รายในปีนี้ พร้อมเปิดสาขาครบ 60 แห่ง นำร่องมี.ค. 20 - 30 สาขา (ทันหุ้น)


KTC

ระบุว่า อนาคตสดใส ทำนิวไฮกำไร-รายได้เติบโต 4 ปีติดต่อกัน ธุรกิจขยายตัวต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้งธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ล่าสุดปี 2559 มีกำไรสุทธิเติบโต 20% อยู่ที่ 2,495 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวมโต 10.6% อยู่ที่ 2.9 ล้านบัญชี ยอดลูกหนี้รวมเท่ากับ 68,697 ล้านบาท ขยายตัว 13% ส่วน NPL ลูกหนี้รวม (หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) ลดลงเหลือ 1.7% ทิศทางปี 2560 รุกขยายกรอบแนวคิดการตลาดรูปแบบใหม่ เน้นตลาดออนไลน์ และการต่อยอดทางธุรกิจใหม่ (ทันหุ้น)


IRPC

เผยปี 59 มีกำไรสุทธิ 9,720.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% จากปี 58 ที่มีกำไรสุทธิ 9,401.76 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายสุทธิ 199,595 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปี 58 ในปี 60 IRPC คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 45-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีมีแนวโน้มเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยคว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มปิโตรเลียม (Market GRM) จะอยู่ในระดับประมาณ 4.3–5.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (ทันหุ้น)