“ประเทศญี่ปุ่น นี่มันญี่ปุ๊นญี่ปุ่นเนอะ”

“ประเทศญี่ปุ่น นี่มันญี่ปุ๊นญี่ปุ่นเนอะ”

รายละเอียด เล็กๆ น้อยๆ คือความใส่ใจของประชาชนชาวญี่ปุ่น

อีกหนึ่งเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้วนกลับมาซ้ำแล้วซ้ำอีก ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีของญี่ปุ่นจะก้าวล้ำไปมาก แต่วัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาก็ไม่จางหาย สามารถนำมาประยุต์ใช้ได้อย่างเข้ากัน


ศิลปะบนท้องถนน


ศิลปะ ความปราณีตของญี่ปุ่นมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แม้แต่บนถนน สำหรับคนที่เคยไปเยือนที่นี่มาแล้วจะต้องมีสิ่งนี้เป็นของสะสมในเมมโมรีการ์ด นั่นก็คือ “ฝาท่อ” ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น


แต่ความสวยงามนี้เริ่มต้นจากกลอุบายของรัฐบาลญี่ปุ่นเพียงเท่านั้นเอง เพราะสมัยก่อนสาธารณูปโภคยังไม่เข้าถึงเมืองที่ห่างไกลแบบในปัจจุบัน รัฐบาลจึงมีแผนจะขยายออกไปยังชานเมืองด้วยนโยบายการวางท่อระบายน้ำ แต่ประชาชนในพื้นที่ไม่เข้าใจจึงเกิดการต่อต้านไม่ให้ขุดเจาะในพื้นที่ของพวกเขา หน่วยงานของรัฐจึงเจรจาด้วยอุบายใหม่ นั่นก็คือ การใส่ลวดลายอันเป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ ลงไปบนฝาท่อ เพื่อเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า นี่เรามาถึงเมืองนี้แล้ว และเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไปในตัว และแล้วการเจรจาก็สำเร็จ


ลวดลายนั้นมีตั้งแต่ต้นซากุระ ใบไม้เปลี่ยนสี วัฒนธรรม สถานที่ที่มีชื่อเสียงของเมืองนั้น ถึงจะมีความสวยงามขนาดนี้ เรื่องการใช้งานก็ดีเยี่ยม เรียบเป็นระนาบเดียวกันกับถนนแบบแนบชิดสนิทแน่น เพราะบ้านเขาใช้จักรยานในการสัญจรกันเยอะ ถ้าไม่เสมอ หรือเป็นร่องๆ รูๆ แบบบ้านเราคงแย่แน่ๆ เอาเป็นว่า ไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมเดินก้มหน้าบ้างนะ


สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน


เมืองเทคโนโลยีแบบนี้ เรื่องเครื่องมือไฮเทคคงไม่ต้องพูดถึง ยิ่งเรื่องห้องน้ำนี่เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าสะอาด สะดวก สบาย ไร้กังวล เรื่องการเดินก็เช่นกัน รถไฟเข้าถึงแทบทุกที่ แต่นักเดินทางต้องศึกษาแต่ละสายไว้ให้ดี เพราะมีเยอะมาก บางจุดเปลี่ยนขบวนที่เป็นสถานีใหญ่ๆ มีรวมกันกว่า 10 เส้นทาง ใช้หลักการจำเป็นแถบสี หรือแม้กระทั่งรถยนต์ก็ยังเป็นรถไฟฟ้าดูอ่อนโยนรักษ์โลก ที่หาจุดชาร์จไฟได้จริงตามที่สาธารณะ อย่างเช่นลานจอดรถในที่ต่างๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งรอในปั๊มแบบการเติมน้ำมันเพราะใช้ระยะเวลานานกว่า


แต่อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจและไม่ควรละเลย นั่นก็คือ สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิเศษ หรือผู้ทุพพลภาพ จะมีให้ได้เห็นกันอยู่ตลอด โดยเฉพาะการข้ามถนนเราจะได้ยินเสียงสัญญาณเตือนทุกครั้ง เพื่อให้ผู้ที่มองไม่เห็นสามารถรู้ได้ว่าเดินข้ามถนนไปได้แล้ว บางที่ก็จะเป็นเสียงปิ๊ปๆ ธรรมดา แต่บางที่โดยเฉพาะในเขตของสถานที่สำคัญก็จะเป็นเสียงนกร้อง ได้ทั้งประโยชน์และยังได้กลิ่นไอธรรมชาติอีกด้วย


ส่วนการเดินทางสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ก็สามารถเดินทางคนเดียวได้เช่นกัน เพราะทุกสถานี ไม่ว่าจะเป็นแบบใต้ดิน หรือแบบลอยฟ้า ก็จะมีลิฟท์ไว้คอยบริการ ถึงแม้ว่าจะมีความสูงเพียงบันใดไม่กี่ขั้นก็ตาม และที่สำคัญคนที่นี่เป็นระเบียบมากถึงแม้ถนนจะว่าง จะเป็นแค่เพียงตรอกซอยเล็กๆ ถ้าไม่มีสัญญาณสีเขียวให้ข้ามถนนได้ ก็จะไม่เดินข้ามไปเด็ดขาด เพราะฉะนั้นผู้มาเยือนอย่างเราอย่าทำเชียวนะ เดี๋ยวจะอายแบบไม่รู้ตัว


ที่นั่งบนรถไฟ หรือรถโดยสารสาธารณะ จะมีสิทธิพิเศษสำหรับคนชรา คนท้อง ไม่ต่างจากบ้านเรา แต่สำหรับที่ญี่ปุ่น ผู้ที่ตั้งครรภ์จะได้รับTAG จากโรงพยาบาลให้พกติดตัวไว้เพื่อใช้สิ่งอำนวยความสะดวก หรือการบริการที่พิเศษกว่า


สำหรับนักเดินทางที่สัมภาระเยอะ ไม่ต้องห่วงเรื่องขึ้นรถโดยสารประจำทาง เพราะเวลารถมาจอดปุ๊ป จะมีระบบไฮโดรลิกทำให้ฝั่งที่เราก้าวขึ้นรถนั้นเตี้ยลงมา และสามารถยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขึ้นไปบนรถได้ง่ายดาย ขึ้นไปแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีพื้นที่สำหรับกระเป๋า เพราะเขาได้จัดให้มีช่องวางและตัวล็อคเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว


นี่แหละเหตุผลที่ทำให้ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในลิสต์ต้นๆของนักเดินทางทั่วโลก เพราะมีการท่องเที่ยวทุกชนิดอย่างครบครัน ทั้งชอปปิง แฟชั่น ความสวยความงาม อิเลคทรอนิกส์ ธรรมชาติ อาหาร วัฒนธรรม ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล แต่ความเป็นญี่ปุ่นไม่เคยเปลี่ยนไปเลย