โตเกียวมารีนตั้งเป้าสู่ผู้นำ‘เออีซี’

โตเกียวมารีนตั้งเป้าสู่ผู้นำ‘เออีซี’

"โตเกียวมารีน" รุกเจาะตลาดกลุ่ม"สูงวัย-วางแผนเกษีณย-วัยทำงาน" หวังดันบริษัทขึ้นสู่ผู้นำตลาดอาเซียน มั่นใจกำไรสะสมปีแรก 227 ล้าน

นายริวสุเกะ ฟูตามูระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย ) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ปีนี้บริษัทเป้าเบี้ยรับรวม 6,400 ล้านบาท เติบโต 18% แบ่งเป็นเบี้ยปีแรก 1,800 ล้านบาท ส่วนเบี้ยต่ออายุ 4,600 ล้านบาท จากปี 2559 บริษัทมีเบี้ยรับรวม 5,442 ล้านบาท เติบโต 25% แบ่งเป็นเบี้ยปีแรก 1,560 ล้านบาท เติบโต 40%  และเบี้ยต่ออายุ 3,872ล้านบาท สัดส่วนถึง 71% ช่องทางประกันกลุ่ม 18% 

สำหรับปีนี้บริษัทยังตั้งเป้าเติบโตอย่างระมัดระวัง แม้ไทยยังมีโอกาสเติบโตดีมาก โดยจะรักรักษาการเติบโตเท่าปีก่อนที่ 25% ซึ่งกลุ่มโตเกียวมารีนญี่ปุ่น พร้อมสนับสนุนการเติบโตในไทย เนื่องจากมีการเติบโตสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะช่องทางตัวแทน เมื่อเทียบกับสิงคโปร์และมาเลเซีย หลังจากขยายช่องทางตัวแทนในไทยเมื่อ 7 ปีก่อน ทำให้ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจในไทย มีกำไรสะสม 227 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 14,699 ล้านบาท ตามรายงานงบการเงินปี 2559

ส่วนแนวโน้มการเติบโตของบริษัทหลังจากนี้ บริษัทยังได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากปัญหาสังคมสูงอายุ และค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยให้กังวลอยู่ รวมถึงตลาดประกันชีวิตในไทยยังไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะกลุ่มคนจ่ายรายเดือน ที่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งคนกลุ่มนี้ ยังมีความต้องการวางแผนเกษียณอายุ เพื่อสร้างหลักประกันผู้สูงอายุ จึงมั่นใจว่า จะสนับสนุนให้กลุ่มโตเกียวมารีน สามารถยืนอยู่ในระดับผู้นำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ 

ด้านนายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย ) จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า สำหรับกลยุทธ์ขยายธุรกิจในไทนปีนี้ ยังมุ่งสร้างการเติบโตผ่านช่องทางตัวแทน ด้วยวิธีการคำนวณการคิดเบี้ยจ่ายรายเดือนลดลงกว่าตลาด ทำให้เบี้ยจ่ายรายเดือนของบริษัทอยู่ที่ 5% เมื่อเทียบกับตลาดใช้วิธีการคำนวณจ่ายเบี้ยรายเดือนอยู่ที่ 8% และสามารถชำระเบี้ยรายเดือนผ่านบัตรเครดิต ทำให้สะดวกในการเก็บออม ทำให้คนตัดสินใจง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ยังขยายตลาดเจาะกลุ่มคนทั่วไปวัยทำงานมากขึ้น ซึ่งสามารถจ่ายเบี้ยรายเดือน ผ่านการวางแผนบำนาญภาคประชาชน วางเป้าเพิ่มสัดส่วนเบี้ยจ่ายรายเดือนไม่น้อยกว่า 30% ของเบี้ยรับรวมจากปัจจุบันอยู่ที่ 10% และแนวโน้มในอนาคตจะกลายเป็นสัดส่วนหลักของบริษัท  เช่นเดียวกับเทรนด์ในญี่ปุ่น มาเลเซีย และเกาหลีใต้  คาดลูกค้าเบี้ยเฉลี่ยต่อรายจะอยู่ที่ 5,000 ต่อเดือน เทียบเท่ากับปัจจุบันลูกค้าจ่ายเบี้ยเฉลี่ยต่อรายต่อปีที่ 60,000-70,000 บาท ขณะที่จ่ายเบี้ยบำนาญเฉลี่ย 140,000-150,000 บาทต่อปี 

ดังนั้นช่องทางตัวแทนปีนี้ ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมเติบโต 15% อยู่ที่ 4,400 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยปีแรก 1,300 ล้านบาทและเบี้ยต่ออายุ 3,100 ล้านบาท  จากปี 2559 มีเบี้ยรับรวม 3,856 ล้านบาท เติบโต 27% เป็นเบี้ยปีแรก 1,139ล้านบาท เติบโต 47%  แม้ 2 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจชะลอตัวลง และปีก่อนเป็นปีที่ยากและท้าทายมากก็ตาม แต่บริษัทยังมีการเติบโตที่ดี