สธ.เร่งสอบจัดซื้อเครื่องมือแพทย์

สธ.เร่งสอบจัดซื้อเครื่องมือแพทย์

สธ.เรียกดูรายละเอียด 17 สัญญากับบ.มะกัน เดินหน้าสอบจัดซื้อเครื่องมือแพทย์

จากกรณีกระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานบริษัท Bio-Rad ซึ่งขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยรับว่ามีบริษัทในกลุ่มจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)กล่าวว่า สธ.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้น มี นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ ที่ปรึกษากระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และรักษาราชการแพทนหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต เป็นประธาน โดยล่าสุดได้รับรายงานว่า จะมีการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยจะประสานขอข้อมูลกับทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)  ร่วมกับการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงของสธ.

ปลัดสธ. กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจะตรวจสอบใน 2 ข้อหลักๆ คือ 1. คำว่าติดสินบนที่มีการกล่าวอ้างถึงนั้น หมายถึงอะไร เนื่องจากยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดว่า เป็นการให้สินบนอะไร ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างยากมาก ทำให้ต้องมาตรวจสอบกว้างๆ ไม่สามารถเจาะจงได้ และ 2. หากเป็นการซื้อเครื่องมือแพทย์ ก็ต้องพิจารณาว่าการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามระเบียบของทางราชการหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กรอบเวลาในการตรวจสอบเบื้องต้นตั้งไว้ที่ 30 วัน แต่ก็ต้องดูขั้นตอนอื่นๆ ด้วยว่า จะเร็วหรือช้า

ด้านนพ.ยงยศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวภายหลังการประชุมครั้งที่ 1 ว่า  เป็นการประชุมครั้งแรก เบื้องต้นวางกรอบการดำเนินการจะพิจารณารายละเอียดสัญญาที่เกี่ยวข้องกับสธ.ทั้งหมด 17 สัญญา ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งได้กำหนดช่วงเวลาว่า วันไหนทำอะไร อย่างไร เบื้องต้นได้ขอให้กรมต่างๆในสธ.ที่มีการทำสัญญากับบริษัทดังกล่าว ส่งเอกสาร ข้อมูลมาให้คณะกรรมการเพื่อพิจารณาภายในวันที่ 17  กุมภาพันธ์นี้ และเมื่อได้รับเอกสารแล้ว คณะกรรมการฯจะนำเข้าสู่การประชุมภายในสัปดาห์หน้าต่อไป

“การตรวจสอบภายใน 30 วันจะต้องรู้ว่าการจัดซื้อจัดจ้าง ราคาการจัดซื้อทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการหรือไม่ ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งตรงนี้หากตรวจสอบได้ก็จะจบ และจะยังสามารถทราบได้ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ทั้งนี้ ในการขอเอกสารต่างๆ จะมีการประสานไปยัง ป.ป.ช.ด้วย เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งขอให้ทางภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการ อย. ดำเนินการขอข้อมูลผ่าน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สหรัฐฯ  เพราะจากที่ปรากฏเป็นข่าว ยังไม่ค่อยมีรายละเอียดมากนัก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏให้ได้ เพราะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย” นพ.ยงยศ กล่าว