sideway จับตาแถลงนโยบายประธานเฟด

สรุปภาวะตลาดวันทำการก่อนหน้า

ตลาดหุ้นไทยปิดบวกได้เล็กน้อย แต่ถือว่าต่ำกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่บวกได้ดีตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ให้ คำมั่นว่าจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการปรับลดภาษี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่  เปิดค่อนข้างทรงตัว รอฟังคำแถลงประธานเฟด ต่อสภาคองเกรส

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ sideway ในกรอบ 1570-1590 จุด คาดนักลงทุนจับตาการแถลงนโยบายการเงินของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้-พรุ่งนี้ โดยประเด็นหลักจะอยู่ที่การส่งสัญญาณต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย (ปัจจุบันตลาดคาดเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปในเดือน มิ.ย.) และมุมมองด้านเศรษฐกิจต่อนโยบายประธานาธิบดีทรัมป์ ส่วนปัจจัยในประเทศ คาดยังเป็นการเล่นเก็งกำไรรายตัวตามรายงานผลประกอบการ ซึ่งสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ (PTT TOP BCP BANPU EGCO RATCH IVL)

ส่วนปัจจัยด้านเทคนิค ระยะสั้นยังเป็นการแกว่งตัวรอบแนวต้านหลัก 1586 จุดต่อเนื่อง ซึ่งถือว่ายังมีความเสี่ยงในรูปแบบ Triple Tops กรอบใหญ่และจะตามมาด้วยการปรับฐานแรง หากดัชนีไม่ขึ้นไปยืนเหนือ 1600 จุด

ประเด็นสำคัญวันนี้

1) – ราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนตัวลง 1.7% ปิดที่ 52.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังบริษัท เบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 591 แท่น แม้ว่ามีรายงานว่า โอเปกลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 890,000 บาร์เรล/วัน ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. มาสู่ระดับ 32.139 ล้านบาร์เรล/วัน ก็ตาม

2) + ประธานาธิบดีทรัมป์ คำมั่นว่าจะประกาศแผนปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่การหารือกับผู้นำจีน และ ญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นไปในเชิงบวก หลังทรัมป์กล่าวว่าจะเคารพต่อนโยบายจีนเดียว

3) + กระทรวงพาณิชย์คาดจีดีพีไทยปี 60 โต 3.0-4.0% จากการกลับมาขยายตัวของการส่งออก และการลงทุนและใช้จ่ายของภาครัฐและการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น (ดูรายละเอียดในเล่ม)

4) +/- จับตา นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด แถลงนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการในสภาคองเกรส ในวันที่ 14-15 ก.พ. นี้

กลยุทธ์

        เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ 1570 จุด

หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค )

        หุ้นมี earning upward revision ได้แก่ TNP DRT PSL ORI TASCO SAMART