เกิดอะไรขึ้นกับ'วูดส์' เมื่อกลายเป็น'พญาเสือ' ไร้เขี้ยว

เกิดอะไรขึ้นกับ'วูดส์'  เมื่อกลายเป็น'พญาเสือ' ไร้เขี้ยว

“สถานการณ์ยากขึ้นทุกที ผมรู้ตัวเองดีว่า ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะเล่นในระดับแนวหน้า ของวงการกอล์ฟยุคปัจจุบันได้อีก”

      นี่คือบทสัมภาษณ์ของ ไทเกอร์ วูดส์ อดีตโปรกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลก ชาวสหรัฐ ซึ่งออกมายอมรับว่าตัวเองคงไม่สามารถกลับมาโชว์ผลงานได้ดีเหมือนก่อน หลังจากปีนี้กลับมาลงทำการแข่งขันใน ยูโรเปียน ทัวร์ รายการ โอเมกา ดูไบ เดสเสิร์ต คลาสสิก ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่สุดท้ายก็ต้องขอถอนตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่แผ่นหลัง ซึ่งเป็นการซ้ำแผลเดิมอีกครั้งหลังจากต้องพักไปนานถึง 15 เดือนเต็ม

     การถอนตัวครั้งนี้ทำให้บรรดานักวิจารณ์ออกมาตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ อดีตโปรมือ 1 โลก รายนี้กันมากมาย ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าตนคงไม่สามารถกลับไปเป็น ไทเกอร์ วูดส์ คนเดิมได้อีกแล้ว หลังจากต้องเจอปัญหาหลายด้านรุมเร้าตลอดในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา

อาการบาดเจ็บ

     วูดส์ ยอมรับว่า คงไม่สามารถเล่นกอล์ฟด้วยความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเหมือนก่อน เนื่องจากสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ผ่านการผ่าตัดที่หลังมาแล้ว 3 ครั้ง ผ่าตัดเข่าอีก 4 ครั้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้เขารู้สึกดี แต่ไม่ได้รู้สึกยอดเยี่ยมเหมือนก่อน

     ทีออฟที่ไว้เนื้อเชื่อใจไม่ค่อยได้, แอพโพรชที่ไม่แม่นยำเหมือนเดิม หรือการพัตต์ที่มีปัญหาแม้แต่ระยะใกล้ๆ ย้อนกลับไปตอนอายุ 20 ต้นๆ นักวิจารณ์กอล์ฟหลายคนเคยพูดว่าอายุการใช้งานของไทเกอร์ จะไม่นานมาก เพราะรูปแบบการสวิงที่รุนแรงในช่วงวัยรุ่น ถึงแม้จะมีการปรับวงสวิงแล้ว แต่อาการบาดเจ็บก็คงสะสมมา

     แฮงค์ ฮานีย์ อดีตโค้ชของวูดส์ ที่มีปัญหาความสัมพันธ์ไม่ลงรอยกัน ระบุว่า ตอนยังดูแล วูดส์ เขาไม่พอใจกับกิจกรรมหลายอย่างที่โปรกอล์ฟชื่อดังเลือกทำ เช่น การเล่นบาสเกตบอล และอเมริกันฟุตบอล เพราะล้วนแล้วแต่เป็นการใช้ร่างกายหนักๆ สุ่มเสี่ยงต่อปัญหาบาดเจ็บทั้งสิ้น

     แน่นอนผลงานที่ไม่คงเส้นคงวาและเปลี่ยนไปจากเดิมนั้น ปัญหาหลักๆ มาจากอายุที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามมีการวิเคราะห์กันว่า อาจไม่ใช่เพียงสภาพร่างกายเท่านั้นที่เป็นปัญหาของ วูดส์ เพราะส่วนหนึ่งอาจมีปัญหามาจากภายใน นั่นก็คือ สภาพจิตใจ

ปัญหา โรคเสพติดเซ็กซ์

     แม้เหตุการณ์จะผ่านมาเกือบ 2 ปี สำหรับรักครั้งที่ 2 ของ ไทเกอร์ วูดส์ มีอันต้องพังไม่เป็นท่า เมื่อ ลินด์ซีย์ วอนน์ แฟนสาวนักสกี แถลงยุติความสัมพันธ์ โดย “เดลี เมล์” สื่ออังกฤษ แฉว่าเป็นเพราะโปรชาวอเมริกันกลับไปมีปัญหาโรคเสพติดเซ็กซ์อีกครั้ง

    ต้นเดือนพ.ค. 2015 วอนน์ ขอแยกทาง ขณะที่ วูดส์ ให้ข่าวว่าตัวเองเครียดมากถึงขนาดนอนไม่หลับ 3 วัน ซึ่งจริงๆ แล้วมีการเปิดเผยว่าเหตุผลเป็นเพราะ วูดส์ นอกใจใช้เงินซื้อบริการทางเพศ เพื่อบรรเทาความผิดหวังจากผลงานย่ำแย่

     วูดส์ มีรสนิยมค่อนข้างเบื่อง่าย ผู้หญิงที่เคยมีความสัมพันธ์ด้วยจึงมีหลายประเภทเริ่มตั้งแต่ดาราหนังผู้ใหญ่สมัยที่ยังอยู่กินกับ เอลิน นอร์เดเกรน ภรรยาคนแรก, สาวขายบริการ, นางระบำ และ คุณครู เป็นต้น จนกระทั่ง เอลิน ภรรยา จับได้และโกรธถึงขนาดหยิบไม้กอล์ฟไล่ฟาดจน วูดส์ ขับรถไปชนกับต้นไม้บริเวณบ้าน ทำให้เรื่องซุกกิ๊กบันลือโลกถูกขุดขึ้นมา

     ถือเป็นจุดเริ่มต้นหายนะในชีวิตของ วูดส์ ก็ว่าได้ เพราะหย่ากับ เอลิน เมื่อปี 2010 ฝ่ายหญิงได้สินสมรส 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,800 ล้านบาท) ส่วนฝ่ายชายนั้นเสียหายหนัก สปอนเซอร์ถอนหลายราย นอกจากนี้ฟอร์มการเล่นยังดำดิ่งจนสุดท้ายต้องเข้ารับการบำบัด

อดีตนักกอล์ฟทำเงิน

     แซค จอห์นสัน แชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2007 เคยกล่าวว่า ไทเกอร์ คือนักกอล์ฟที่ทำเงินจากสปอนเซอร์และดึงผู้ชมเข้าสนามอย่างล้นหลาม นักกอล์ฟทุกคนได้เงินมากขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้นก็เพราะมีไทเกอร์อยู่ในทัวร์ นอกจากนั้นไทเกอร์ยังมีส่วนสำคัญในการยกระดับฝีมือของนักกอล์ฟทั้งโลกด้วย

     นิตยสารไทม์ เคยจัดให้ ไทเกอร์ วูดส์ เป็น 1 ใน 25 บุคคลที่มีอิทธิพลที่สุดในสหรัฐ เพราะเขาทำให้วงการกอล์ฟทั่วประเทศและทั่วโลกเกิดความตื่นตัว ในฐานะนักกอล์ฟที่ครองสถิติเป็นมือ 1 ของโลกติดต่อกันนานที่สุด ถึง 683 สัปดาห์, คว้าตำแหน่งโปรยอดเยี่ยมแห่งปี ของพีจีเอทัวร์ได้ ถึง 9 ใน 11 ฤดูกาลที่ลงเล่นในระดับอาชีพ, สามารถเก็บรายได้จากการแข่งขันได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยหากนับรายได้รวมทั้งหมดทั้งในและนอกสนาม วูดส์ ทำเงินไปกว่า 1,400 ล้านดอลลาร์ (ราว 47,000 ล้านบาท)

ปัจจุบันและเป้าหมาย

     จากตำแหน่งมือ 1 ของโลก ตอนนี้ วูดส์ ตกมาเป็นมืออันดับ 674 โลกในปัจจุบัน โดยครั้งสุดท้ายที่เขาคว้าแชมป์เมเจอ คือ ยูเอส โอเพน ในปี 2008 รวมถึงแชมป์ พีจีเอ ทัวร์ ที่ทำเอาไว้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลคือ 79 รายการ ซึ่ง ณ ขณะนี้คงต้องหยุดคิดถึงตัวเลขทุกอย่างไว้ก่อน

     ปี 2004 เสียตำแหน่งมือ 1 โลกให้ วีเจย์ ซิงห์, 2 ปีถัดมา สูญเสียคุณพ่อ เอิร์ล วูดส์ แต่เดือนต่อมา สามารถสอยแชมป์ ดิ โอเพน ใบที่ 3, ปี 2009 คืนสนามรอบ 9 เดือน หลังจากผ่าตัดมา ก่อนเจอมรสุมลูกใหญ่ที่สุดในชีวิตเมื่อถูกขุดคุ้ยว่านอกใจภรรยา, ปี 2013 คืนสู่บัลลังก์หลังเก็บแชมป์ต่อเนื่องจนกลับมาเป็นมือ 1 โลก แบบเต็มภาคภูมิด้วยแชมป์ อาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเทชันแนล ใบที่ 8

     แน่นอนว่าโอกาสจะเห็นเจ้าของฉายา “พญาเสือ” กลับมาครองเบอร์ 1 อีกครั้ง น่าจะยังไม่ใช่สิ่งที่ควรพูดถึงกันตอนนี้ อีกทั้งเมื่อมองไปยังกลุ่มโปรกอล์ฟ ที่กำลังขึ้นมายิ่งทำให้ความน่าจะเป็นดังกล่าวลดน้อยลงไปอีก ดังนั้นสิ่งที่แฟนกอล์ฟและตัวของ วูดส์ เอง คาดหวังอาจเป็นแค่การกลับมาลงเล่นและรักษาสถานภาพการเป็น นักกอล์ฟอาชีพ ไว้ให้ได้ โดยไม่มีเรื่องของปัญหาอาการบาดเจ็บคอยรบกวน

     ตามที่เจ้าตัวยอมรับกับสื่อก่อนหน้านี้ว่า "ผมไม่มีคำตอบให้คุณ (ว่าจะกลับสู่ฟอร์มเดิมได้เมื่อไหร่) ไม่ว่าจะศัลยแพทย์หรือนักกายภาพก็บอกไม่ได้เช่นกัน ไม่มีอะไรที่ผมสามารถบอกได้ทั้งสิ้น เวลานี้ผมยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์