ค้าปลีกในปั๊มผนึกพันธมิตรลุย‘ลอยัลตี้โปรแกรม’ 

ค้าปลีกในปั๊มผนึกพันธมิตรลุย‘ลอยัลตี้โปรแกรม’ 

ดีกรีการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในสถานีบริการน้ำมันนับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ผู้ประกอบการวางกลยุทธ์ไม่ต่างจากห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ที่ต้องใช้สารพัดกลยุทธ์ทั้งกิจกรรมการตลาด แคมเปญส่งเสริมการขาย รวมทั้ง “ลอยัลตี้โปรแกรม” ผ่านบัตรสมาชิก ในการขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าประจำ 

ชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน “ซัสโก้”กล่าวว่า การแข่งขันที่รุนแรงของสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกในสถานีบริการน้ำมัน ที่เป็นหนึ่งในแม่เหล็กหลักดึงดูดลูกค้า ทำให้ผู้ประกอบการต้องใช้กลยุทธ์การทำโปรโมชั่นในรูปแบบต่างๆ นอกเหนือจากแจกน้ำดื่ม เมื่อเติมน้ำมันครบตามเงื่อนไข ซึ่งเป็นแนวทางหลักที่ผ่านมา ปัจจุบันมีการจัดแคมเปญชิงโชค การพัฒนาบัตรสมาชิกเพื่อต่อยอดสร้าง “ลอยัลตี้ โปรแกรม”  สะสมแต้ม ให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ 

สำหรับซัสโก้ วางแนวทางดำเนินงานมุ่งการตลาดเชิงรุกผ่านการทำโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เน้นจับมือพันธมิตรคู่ค้าต่างๆ ทั้งในกลุ่มสินค้าและบริการ เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของบริการแบบครบวงจร

ปัจจุบันซัสโก้มีเครือข่ายร้านค้าปลีกพันธมิตร อาทิ ร้านสะดวกซื้อลอว์สัน แฟมิลี่มาร์ท รวมถึงเชนร้านอาหาร ร้านกาแฟ เช่น ดอยคำ ดิโอโร่ เมซโซ่ รวมถึงร้านมินิมาร์ท “แอท มาร์ท” ที่บริษัทลงทุนเอง 

นอกจากนี้จะมี “สมาร์ท เมมเบอร์”  หนึ่งในลอยัลตี้ โปรแกรม มีจุดเด่นที่ “ไม่ต้องถือบัตรสมาชิก” ลูกค้าสามารถแจ้งเบอร์โทรศัพท์เมื่อใช้บริการได้ทันที ตั้งเป้าหมายยอดสมาชิกปีแรก 4-5 แสนราย 

ปัจจุบัน ซัสโก้ มีสาขาประมาณ 250 แห่ง ใน 2-3 ปีนี้คาดจะมีเครือข่ายไม่ต่ำกว่า 300 แห่ง โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากกลุ่มธุรกิจน้ำมันกว่า 90% ขณะที่กลุ่มนอนออยล์ สร้างผลกำไรเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง 

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานีบริการน้ำมันหันมาทำแคมเปญส่งเสริมการขายกระตุ้นการซื้อของร้านค้าปลีกมากขึ้น ผ่านการจัดทำบัตรสะสมแต้ม และแคมเปญชิงโชคต่างๆ

ปตท.วางยุทธศาสตร์ขยายร้านค้าและบริการเพื่อเพิ่มความสะดวกรองรับความต้องการของผู้บริโภคแบบครบวงจร

ปตท. ให้ความสำคัญกับการหาพันธมิตร แบรนด์สินค้าใหม่ๆ จากต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร เพื่อเข้ามาเสริมความแกร่งให้กับกลุ่มนอนออยล์ หรือกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน แม้ว่ารายได้จากกลุ่มธุรกิจนี้จะมีสัดส่วนที่น้อยแต่มีผลกำไรสูงถึง 20%”

ปตท.ยังมีบัตรสมาชิก “พีทีที บูลคาร์ด” ในการให้สิทธิประโยชน์ลูกค้า ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรมากกว่า 1.9 ล้านใบ ลูกค้าสามารถนำคะแนนสะสมแลกเป็นสินค้าและบริการได้ เช่น บัตรชมภาพยนตร์ ส่วนลดร้านค้าพันธมิตร 

พร้อมกันนี้ ได้ปรับปรุงพื้นที่รองรับกับผู้สูงอายุและผู้พิการ อาทิ การจัดทำทางลาดเอียงให้ผู้ใช้วีลแชร์หรือรถเข็นเพื่อเข้าใช้บริการห้องน้ำและร้านอาหารต่างๆ