‘ดีดับบลิว’เดือนม.ค.เทรดสนั่น

‘ดีดับบลิว’เดือนม.ค.เทรดสนั่น

ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ เดือนม.ค. ทะลุ 5 หมื่นล้านบาท เคจีไอ ชี้ นักลงทุนเปลี่ยนพฤติกรรม เน้นซื้อขายหุ้นรายตัวมากขึ้น

ความเคลื่อนไหวการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิ อนุพันธ์ในเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 51,157.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 39,850.64 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28.37 % แม้ความผันผวนของตลาดหุ้นจะต่ำกว่าปีก่อน
นายเจนวิทย์ ชินกุลกิจนิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพของมูลค่าการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ทิศทางใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในปีนี้ จะมีทิศทางที่เพิ่มขึ้น แม้ดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแคบหลังจากที่นักลงทุนเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนที่กระจายตัวมากกว่าเดิม

“การซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในปีนี้ ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนเริ่มปรับพฤติกรรมการลงทุนและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เมื่อเห็นว่าดัชนีมีความผันผวนต่ำ ก็จะเริ่มหันมาซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่อ้างอิงหุ้นรายตัวแทน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มปริมาณใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ให้ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนเพิ่มขึ้น”

ผลดังกล่าวเห็นได้จากช่วงเดือนม.ค. ที่ดัชนียังแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งในช่วงเดือนก.พ. นอกจากนักลงทุนจะเน้นซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์อ้างอิงหุ้นรายตัวแล้ว ยังหันมาซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์อ้างอิงเซท 50 ในฝั่งที่มองว่าดัชนีในกลุ่มดังกล่าวจะปรับตัวลง (PUT) อย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนมองว่าตลาดหุ้นอาจจะมีการปรับฐานในช่วงดัชนี 1,600 จุด

ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกมองว่าการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์จะอยู่ในระดับ 6 %ของมูลค่าการซื้อขาย ซึ่งในครึ่งปีหลังนั้นจะมีความผันผวนอย่างมากจากการปรับขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกับตลาดหุ้นทั่วโลกให้เกิดความผันผวน คาดว่าการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์จะขึ้นไประดับ 7-8 % ของมูลค่าการซื้อขายได้

อย่างไรก็ตาม ในด้านส่วนแบ่งทางการตลาดของ บล.เคจีไอ ในช่วงเดือนม.ค. ขึ้นมาเหนือระดับ 32 % หลังจากปีก่อนที่อยู่ระดับ 28 %อยู่ในระดับเดียวกับผู้เล่นที่เป็นอันดับที่ 1 ของอุตสาหกรรม ซึ่งบล.ยังไม่มีเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรม แต่จะขอรักษาการเติบโตให้ต่อเนื่อง จากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ให้ครบในทุกหุ้นอ้างอิง คาดว่าปัจจุบันน่าจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ครอบคลุม

นายนพดล ดวงทิพย์เนตร หัวหน้าฝ่ายตราสารอนุพันธ์ บล.แมคควอรี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนหันเข้าลงทุนในใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์อ้างอิงหุ้นรายตัวมากขึ้น ทั้งนี้ในฝั่งของบล.จะมีการปรับกลยุทธ์นอกจากออกผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงหุ้นรายตัวให้มากขึ้นแล้ว จะมีการปรับใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่อ้างอิงดัชนีเซท 50 จะมีการปรับการเคลื่อนไหวของใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ให้มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากขึ้น เช่นจากเดิมที่ดัชนีเปลี่ยนแปลง 0.5 จุด ถึงจะมีการปรับเปลี่ยนราคาให้ปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม ทิศทางของมูลค่าการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์นั้น มองว่ายังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแคบ ซึ่งนักลงทุนมีการปรับเปลี่ยนการลงทุนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายของใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์คิดเป็น 6% ของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน

ในด้านการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในไทย ถือว่ามีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดในอาเซียน และยังเติบโตได้อีกมาก ซึ่งหากวัดได้จากประเทศในภูมิภาคเอเชียพบว่า ประเทศที่มีการซื้อขายคึกคักมากที่สุด คือประเทศไต้หวัน ซึ่งมีสัดส่วนต่อมูลค่าการซื้อขายต่อวันในระดับ 20 % ซึ่งไทยยังค่อนข้างห่างไกลจากระดับดังกล่าว เพราะไต้หวันใช้เวลาการพัฒนาระบบมากกว่า 10 ปีแต่ในประเทศไทยนั้น ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์อยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น