'อัจฉริยะ' เตรียมแฉอีก 'ครูจอมทรัพย์' ไม่ใช่แพะ!

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยังยืนยันความเชื่อที่ว่า ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร “ไม่ใช่แพะ” ที่ถูกติดคุกฟรีโดยไม่ได้ทำความผิด โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ ให้สัมภาษณ์รายการกรองข่าวเช้านี้ วิทยุเนชั่น คลื่นเอฟเอ็มFM102 หลังจากเมื่อวานนี้ได้ไปฟังการสืบพยานในการรื้อคดีครูจอมทรัพย์ที่ศาลจังหวัดนครพนมทั้งวัน โดยบอกว่าประเด็นการต่อสู้ของครูจอมทรัพย์ยังเป็นประเด็นเดิม เป็นพยานหลักฐานเก่าทั้งนั้น

ส่วนการสืบพยานเรื่องรถของครูจอมทรัพย์นั้น นายอัจฉริยะ ตั้งคำถามว่า ทำไมกระทรวงยุติธรรมไม่ใช้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมมาเป็นผู้ตรวจสอบ แต่กลับไปใช้หน่วยงานอื่นที่ไม่ได้ผู้เชี่ยวชาญที่ขึ้นทะเบียนกับศาล และไม่ได้การรับรองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบันตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์

"ทำไมกระทรวงยุติธรรมไม่ใช้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมมาเป็นผู้ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอบอกว่าเกรงว่าหากใช้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะเกิดครหาว่าเกิดความไม่โปร่งใส ผมมองว่าเป็นการดูถูกคนในหน่วยงานของตัวเอง"

นายอัจฉริยะ บอกด้วยว่า ตอนยื่นรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ มีการเอานายสับ วาปี เป็นตัวตั้งในการยื่นเรื่องว่า เป็นคนขับรถชน วันนี้ไม่เข้าใจว่านายสับหายไปไหน ทำไมไม่เอานายสับมาเป็นพยาน

"เรามีข้อมูลเชิงลึกของนายสับ วาปี สารภาพกับท่านรองปลัดมาแล้วว่ารับตังค์มา วันศุกร์นี้ (10 ก.พ.) ผมจะเปิดโปงขบวนการทำลายกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดให้เห็นผ่านรายการคมชัดลึก (เนชั่นทีวี) จะทำเป็นชาร์ตให้เห็นเลยว่ามีใครร่วมขบวนการบ้าง" นายอัจฉริยะกล่าว

นายอัจฉริยะ ยังยืนเดิมพันเดิมที่เคยท้าไว้ คือ "ยังยืนยันเหมือนเดิม ด้วยสัจจะลูกผู้ชาย หากครูจอมทรัพย์เป็นแพะ ผมยินดีเอาดอกไม้ไปขอมากราบเท้าครูจอมทรัพย์ ยินดีเข้าคุกตลอดเวลา ให้ครูฟ้องทั้งอาญาทั้งแพ่ง และจะยุติบทบาทในการทำหน้าที่ จะไม่มีชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมในประเทศไทยต่อไป"

ถามว่าในช่วงหลังดูเหมือนตำรวจเสียงอ่อยไปหรือเปล่า นายอัจฉริยะ กล่าวว่า "ผมว่าอย่าไปดูละครเลย อันนั้นเป็นละคร มาดูของจริงในศาลดีกว่า"

ทั้งนี้ศาลจังหวัดนครพนมนัดสืบพยานในการรื้อคดีครูจอมทรัพย์ 3 วัน คือ 8-10 ก.พ. โดยการสืบพยานวันแรก สืบพยานฝ่ายผู้ร้องไปแล้ว 6 ปาก จากทั้งหมด 9 ปาก วันนี้จะสืบพยาน 3 ปากที่เหลือของฝ่ายผู้ร้อง จากนั้นจะเป็นสืบพยานฝ่ายผู้ถูกร้อง

สำหรับนายสับ วาปี ผู้ที่เคยออกมาระบุว่าเป็นคนขับรถชนผู้เสียชีวิตตัวจริง นั้น เรียกได้ว่าทางกระทรวงยุติธรรมที่เข้ามาช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ในคดีนี้ได้ตัดชื่อนายสับออกจากการเป็นพยานในนาทีสุดท้าย โดยกระทรวงยุติธรรมให้เหตุผลว่า ต้องการมุ่งเน้นว่ารถกระบะของครูจอมทรัพย์ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของครูจอมทรัพย์ หากนำนายสับขึ้นเป็นพยานด้วยอาจจะทำให้เกิดความไขว้เขว และต้องใช้เวลาในการพิจารณาคดีนานขึ้น เพราะต้องมีขั้นตอนนำนายสับเข้าเครื่องจับเท็จ และต้องฟ้องคดีอาญากับนายสับก่อน ต้องให้ศาลตัดสินว่านายสับผิดก่อนจึงจะสามารถมาตัดสินในคดีรื้อฟื้นของครูจอมทรัพย์ได้