‘ออราเคิล’ โหมตลาด 'คลาวด์'

‘ออราเคิล’ โหมตลาด 'คลาวด์'

หวังไทยแลนด์4.0หนุนลงทุน-จับตาไอโอที-บล็อกเชนแรง

“ออราเคิล” สบช่องนโยบายไทยแลนด์ 4.0 หนุนองค์กรโหมลงทุนไอที เล็งลุยหนักคลาวด์อินฟราสตรักเจอร์ เจาะธุรกิจค้าปลีก การเงิน อุตสาหกรรม มั่นใจตลาดโตแรง ตั้งเป้าสิ้นปี 2560 รายได้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก


นายณัฐศักดิ์ โรจนพิเชฐ กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทยและเมียนมา กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีแรกที่นโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลเข้ามามีอิทธิพลต่อการลงทุนไอทีในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม

“ตั้งแต่ปีทีผ่านมานโยบายภาครัฐผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เห็นได้ชัดเจนว่าทุกองค์กรเร่งปรับตัว มีแนวคิดนำดิจิทัลมาใช้มากขึ้น ประเมินขณะนี้แต่ละรายมุ่งเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล มีแผนนำคลาวด์ บิ๊กดาต้า โมบิลิตี้ และแอพพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจมาใช้”

ส่วนปีนี้เทคโนโลยีที่มีบทบาทอย่างมาก คือ บิ๊ก ดาต้า อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ เพย์เมนท์ บล็อคเชน และแอพใหม่ๆ นอกจากนั้นโซเชียลจะเข้ามามีส่วนด้านการทำตลาดมากขึ้นตามลำดับ

ข้อมูลจากไอเอ็มซี ระบุว่า ตลาดคลาวด์ในไทยจะโตได้ราว 16% โมบิลิตี้ 14% ออราเคิลพบด้วยว่าในระดับโลกมีการนำกระบวนการทำงานไปไว้บนคลาวด์เต็มรูปแบบแค่เพียง 6% ดังนั้นโอกาสการเติบโตยังมีอยู่สูงมาก

ข้อมูลจากบริษัทวิจัยไอดีซี ระบุว่า เมื่อปี 2559 การลงทุนอินฟราสตรักเจอร์ไอทีขององค์กรธุรกิจในประเทศไทยมีมูลค่าราว 4 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยที่ 3.9% ต่อปี ทั้งมีการคาดการณ์ไว้ว่าเมื่อถึงปี 2563 มูลค่าจะเพิ่มไปถึง 5 แสนล้านบาท

“เป็นตัวเลขการเติบโตที่ไม่ได้หวือหวา ทั้งพบว่า ธุรกิจองค์กรเลือกลงทุนเฉพาะด้านตามการใช้งานจริง ส่วนปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการใช้งานบิ๊กดาต้าและคลาวด์”

สำหรับปัจจัยบวก หลักๆ มาจากดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่น ความพยายามที่จะเข้าถึง เข้าใจลูกค้า นำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ นำโซเชียลมีเดียมาทำการตลาดดิจิทัล การใช้งานข้อมูล รวมถึงโลเคชั่นเบสมาร์เก็ตติ้ง ขณะนี้เทรนด์ตลาดมุ่งพัฒนาระบบที่ทำงานได้อัตโนมัติมากขึ้น

สำหรับออราเคิล คลาวด์เป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตมากที่สุด ในระดับโลกไตรมาสที่ผ่านมาทั้งซอฟต์แวร์แอสอะเซอร์วิส และอินฟราสตรักเจอร์แอสอะเซอร์วิส โตกว่า 81% หากรวมแพลตฟอร์มแอสอะเซอร์วิสโต 62%

ขณะที่ในประเทศไทย มีทิศทางที่สอดคล้องกันไปโดยสามารถเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ที่น่าสนใจไม่ใช่แค่ธุรกิจขนาดใหญ่ แต่มีตั้งแต่การใช้งานกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง ส่วนประเด็นความกังวลเรื่องซิเคียวริตี้นั้นน้อยลง

“ออราเคิลยังคงโฟกัสตลาดคลาวด์ พยายามทำให้ลูกค้าเดินหน้าสู่คลาวด์อย่างยืดหยุ่นมากที่สุด ที่จะผลักดันมากๆ คือ รูปแบบอินฟราสตรักเจอร์แอสอะเซอร์วิส จากนี้ออราเคิลยังมีแผนนำเทคโนโลยีอย่างแมทชีนเลิร์นนิ่งเข้ามาผสมผสานด้วย”

ด้านการปรับตัวรับมือการแข่งขันที่รุนแรง ออราเคิลพยายามเสนอราคาที่แข่งขันได้ มีบริการเสริมที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจลูกค้า ซิเคียวริตี้ เน้นบริการหลังการขายโดยที่ปรึกษามีความเชี่ยวชาญทั้งเชิงธุรกิจและเทคนิค

กลุ่มลูกค้าที่โฟกัส ประกอบด้วย ค้าปลีก การเงิน การธนาคาร อาหาร และภาคอุตสาหกรรม ส่วนผู้ให้บริการโทรคมนาคมกลายเป็นผู้ให้บริการ

ข้อมูลโดยออราเคิลระบุว่า การลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยตัวเองของธุรกิจองค์กรจะลดลงอย่างรุนแรง จากนั้นหันไปนิยมใช้บริการจากผู้ให้บริการคลาวด์แทน โดยคาดการณ์ไว้ว่าเมื่อถึงปี 2568 ดาต้าเซ็นเตอร์ที่บริษัทเป็นเจ้าของจะลดลงมากถึง 80% งบดังกล่าวจะถูกนำไปใช้กับบริการคลาวด์แทน

บริษัทมั่นใจว่าปี 2560 ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทในไทยจะสามารถเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก