'เซ็นทรัล'หวังปิดดีลทำเลทอง ปั้นมิกซ์ยูสใหญ่สุด

'เซ็นทรัล'หวังปิดดีลทำเลทอง ปั้นมิกซ์ยูสใหญ่สุด

"กลุ่มเซ็นทรัล" เคลื่อนทัพลงทุนระบุสนใจทุกทำเลทอง หวังคว้าดีล "สถานทูตอังกฤษ" ปั้นเมกะโปรเจคมิกซ์ยูสใหญ่สุด เชื่อมอาณาจักรชิดลม-เอ็มบาสซี

ทุนไทยยักษ์ใหญ่กลุ่มเซ็นทรัลมั่นใจศักยภาพประเทศไทยประกาศความพร้อมเดินหน้าลงทุนรับ “ทุกโอกาสที่เข้ามา” โดยเฉพาะ “ทำเลทอง” หลายแห่งที่กำลังเปิดประมูลในขณะนี้และอนาคต

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวถึงทิศทางธุรกิจปีนี้ว่า กลุ่มเซ็นทรัลจะขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อขณะนี้มีสัญญาณที่ดีขึ้น สะท้อนจากยอดขายกลุ่มเซ็นทรัลเดือน ม.ค. เติบโตกว่า 10% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวเพียง 1-2% ขณะที่ผลประกอบการปี 2559 ยอดขายเติบโต 20% จากการขยายสาขาใหม่ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลเตรียมประกาศแผนธุรกิจประจำปีอย่างเป็นทางการวันที่ 1 มี.ค.นี้

สำหรับโปรเจคไฮไลท์เป็นที่สนใจของกลุ่มนักลงทุนต่างๆ คือ ที่ดิน 23 ไร่ บริเวณสถานทูตอังกฤษ ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลเข้าร่วมประมูลด้วยนั้น อยู่ในกระบวนการพิจารณา

ชี้โปรเจคใหญ่สุดของเซ็นทรัล

นายปริญญ์ จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลสนใจในทุกโอกาสที่เข้ามา ทั้งที่ดินสถานทูตอังกฤษซึ่งได้ยื่นข้อเสนอไปเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งมีความสนใจทำเลทองอย่างมักกะสัน และบางซื่่อ ซึ่งแต่ละโครงการต้องศึกษาและพิจารณาความเป็นไปได้ โอกาสทางธุรกิจต่างๆ

“โครงการสถานทูตอังกฤษ เป็นทำเลที่ดีมาก เป็นจุดเชื่อมต่อไปได้รอบทิศทางหากเซ็นทรัลได้รับการพิจารณา่จะเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนมากสุดเท่าที่บริษัทเคยลงทุนมา”

ทั้งนี้ บริเวณดังกล่าวสามารถพัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูสเชื่อมอาณาจักรเซ็นทรัลโดยรอบซึ่งมีแฟลกชิพสโตร์อย่าง ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

กรณีที่เซ็นทรัลไม่ได้รับการพิจารณาพัฒนาโครงการดังกล่าว จะเป็นกลุ่มทุนใดเข้ามาก็ตามเป็นผลดีต่อเซ็นทรัลเช่นกัน แต่จะ “ดีที่สุด” คือ การลงทุนพัฒนาเอง เพราะสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีศักยภาพ

สร้างอาณาจักรเซ็นทรัล

แหล่งข่าวในวงการค้าปลีก กล่าวว่า ที่ดินบริเวณสถานทูตอังกฤษ จำนวน 23 ไร่ นับเป็นแปลงใหญ่ใจกลางเมืองที่มีการลงทุนสูงมาก เฉพาะที่ดินมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ยังไม่นับรวมการลงทุนต่อเนื่องในการพัฒนาโครงการ ที่คาดว่าจะต้องใช้อีกไม่น้อยกว่า 1-2 หมื่นล้านบาท

ย่านดังกล่าวกลุ่มเซ็นทรัลมีพื้นที่ค้าปลีกครอบคลุมตลาดระดับกลางและระดับบน ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ต่อเนื่องไปถึงเซ็นทรัลเวิลด์ ขณะเดียวกันในโครงการเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ยังมีพันธมิตรโรงแรมระดับ 6 ดาว “ปาร์คไฮแอท” ซึ่งเตรียมเปิดบริการปีนี้

“รูปแบบและผลตอบแทนทางการลงทุนของโครงการจะเป็นตัวแปรสำคัญในการช่วงชิงที่ดินมูลค่าสูง แม้เซ็นทรัลไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ใครเข้ามาพัฒนาก็เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มเซ็นทรัลที่มีโครงการค้าปลีกและโรงแรมรองรับด้านหน้าอยู่แล้ว”

ปรับศูนย์การค้ารับไลฟ์สไตล์

นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้บริหารเครือข่ายศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า, เซ็นทรัล เฟสติวัล และเซ็นทรัลเวิลด์ กล่าวว่า ขณะนี้บทบาทของศูนย์การค้าไม่ใช่เพียงแหล่งจับจ่ายใช้สอยเพียงอย่างเดียว พฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไป

ขณะเดียวกัน มี “ช้อปออนไลน์” เป็นตัวแปรสำคัญในการดึงดูดความสนใจในการใช้จ่ายของลูกค้า ดังนั้นผู้ประกอบการศูนย์การค้า รวมทั้งเซ็นทรัลต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดรับสถานการณ์และลูกค้าเป้าหมาย

“พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ช้อปปิ้งมอลล์ไม่ใช่แค่สถานที่มาเพื่อซื้อของอีกต่อไป เพราะลูกค้าหาซื้อได้จากออนไลน์ จะทำอย่างไรให้ผู้คนมาใช้ชีวิต ฉะนั้นเราต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ได้ โดยเฉพาะนักศึกษา คนทำงาน กลุ่มครอบครัว คนรุ่นใหม่"

ทั้งนี้ ซีพีเอ็น วางแผนเพิ่มพัฒนาและปรับส่วนผสมร้านค้าใหม่ให้มีประสิทธิภาพรองรับความต้องการในแต่ละทำเล การเพิ่มสีสันของแม่เหล็กใหม่ เช่น เอสเอ็มอี ที่จะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของกลุ่มเซ็นทรัลในการเข้ามาเป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในอนาคต