ตั้งหน่วยงานกลางเชื่อม'ฟินเทค'

ตั้งหน่วยงานกลางเชื่อม'ฟินเทค'

ก.ล.ต. ประสาน "ธปท.-คปภ.ตั้งองค์กรกลางประสานกลุ่มฟินเทค คาดได้ข้อสรุป3 เดือน แจงมองฟินเทคช่วยหนุนอุตสาหกรรมให้ดีขึ้น

นายรพี  สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน 3 หน่วยงาน ทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) และ ก.ล.ต. เพื่อตั้งศูนย์ประสานงานกับธุรกิจฟินเทค โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 2-3 เดือนนี้

“ที่ผ่านมา ธุรกิจด้านฟินเทคจะมีปัญหาต้องติดต่อกับหลายหน่วยงาน ซึ่งบางครั้งมันทำให้เสียเวลา และยุ่งยาก เนื่องจากมีหลายกฏเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทำให้ทั้ง 3 หน่วยงานหารือกัน เพื่อวางแผนจัดตั้งตัวกลางช่วยแก้ไขปัญหา และคาดว่าจะเกิดขึ้นได้ใน2-3 เดือนนี้”     

ทั้งนี้เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปค่อนข้างมาก แต่ในด้านการเงินยังมีการพัฒนาไม่ทันความต้องการ ซึ่งไทยอยู่ในจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ และเชื่อว่าอีก 2-3ปีข้างหน้าการให้บริการด้านการเงิน จะเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน

สำหรับธุรกิจฟินเทคจะไม่เข้ามาเป็นคู่แข่งกันกับผู้เล่นที่มีอยู่เดิม แต่จะเข้ามาช่วยขยายการให้บริการให้ดีขึ้น ทั้งด้านการให้คำแนะนำนักลงทุน และระบบชำระราคาให้มีความรวดเร็ว และน่าเชื่อถือ ก.ล.ต.จะมีหน้าที่ดูแลกฏเกณฑ์และขจัดอุปสรรคที่เกิดขึ้น รวมถึงผ่อนคลายกฏเกณฑ์

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า การเข้ามาของธุรกิจฟินเทคนั้น อาจกระทบกับการเปิดสาขาในพื้นที่กรุงเทพ อาจทำให้มีปริมาณลดลง แต่ในต่างจังหวัดการขยายสาขายังเป็นสิ่งจำเป็น ส่วนผลกระทบกับเจ้าหน้าที่แนะนำผู้ลงทุน เชื่อว่าจะไม่กระทบ เพราะปัจจุบันเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนมีไม่เพียงพอ

นายเจษฎา สุขทิศ เลขาธิการชมรมฟินเทคแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าจากปี 2558 ที่มีจำนวนผู้ให้บริการ 42 รายสิ้นปี 2559 มี 80 ราย ขณะที่ชมรมฟินเทคเปิดรับสมาชิกเป็นทางการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยพบว่ามีการตอบรับที่ดีมีผู้สมัครสมาชิกกว่า 100 ราย โดยเป็นธุรกิจฟินเทคประมาณ 60-70 ราย