'ประยุทธ์'เอ่ยปากขอโทษสื่อ เหตุใช้อารมณ์แจงเงินคงคลัง

'ประยุทธ์'เอ่ยปากขอโทษสื่อ เหตุใช้อารมณ์แจงเงินคงคลัง

นายกฯประยุทธ์ เอ่ยปากขอโทษสื่อ เหตุใช้อารมณ์แจงเงินคงคลังวันก่อน อ้างเหนื่อยประชุมกอ.รมน.เครียด ยึดนโยบายกู้มาต้องใช้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวในโชเชี่ยลตั้งคำถามถึงเงินคงคลังของประเทศที่ลดลงในช่วงปี 2557-2559 ซึ่งมีการนำเงินในส่วนนี้ไปใช้งานรักษาความปลอดภัย สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนถึงนำเงินไปใช้งานรักษาความปลอดภัยในช่วงรัฐประหาร และงานของ คสช. ว่า ทุกแผนงานโครงการและทุกงบประมาณจะต้องมีการขออนุมัติหลักการขึ้นมาจากฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายสังคม กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม และในส่วนของกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ก็ต้องทำเรื่องเพื่อเบิกเบี้ยเลี้ยงต่างๆ และขึ้นไปเป็นงบความมั่นคง ซึ่งเป็นไปตามข้อเท็จจริง มีการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ ควบคุมบัญชีงบประมาณ ไม่ใช่ว่าเงินตรงนี้หายไป เพราะเอาเงินไปให้ทหารทำงาน จะทำแบบนั้นได้ที่ไหน เมื่อเบิกเงินก็ต้องใช้ตามข้อเท็จจริง โดยผ่านการกลั่นกรองเยอะกว่าจะได้รับการอนุมัติ ถือเป็นไปตามข้อเท็จจริง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวาน (6ก.พ.) ต้องขอโทษ เพราะบางทีก็หงุดหงิด และก็ยุงๆเหนื่อยกับการประชุมกอ.รมน.หลายเรื่อง ออกมาก็มาเจอปัญหา ที่ตนทราบคือรมว.คลังได้ชี้แจงแล้ว 2-3 รอบ ตนได้ติดตามจากหน้าหนังสือพิมพ์ ก็เห็นว่ามีข่าว แต่พอมาถามซ้ำบางทีตนก็ไม่ไหว บางทีมันกดดันเยอะ แต่ตนไม่เคยปกปิดอะไรเลย ขอให้เข้าใจ วันนี้ยังมีอาจารย์ท่านเดิมออกมาอีก แต่ตนได้เล่าให้รมว.คลังไปแล้ว โดยรมว.คลังบอกว่า อาจารย์อาจจะไม่เข้าใจในหลายเรื่องในเชิงปฏิบัติ ไม่ใช่ดูแต่ตัวเลขอย่างเดียว ต้องดูวิธีการปฏิบัติด้วย ฉะนั้นยอดเงินอะไรต่างๆ กู้มากหรือกู้น้อย ก็กู้มาทุกรัฐบาล ช่วงไหนใช้เยอะก็กู้เยอะ แล้วใช้หมด ช่วงไหนกู้แล้วไม่ได้ใช้ มันก็ควรจะปลดล็อคไปบ้าง ไม่ใช่กู้มารอไว้ เพราะบางช่วงดอกเบี้ยมันก็ขึ้นลง ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้เงินเหล่านี้เหลือไว้มากมาย ที่ผ่านมาบางทีเตรียมเงินแล้วใช้ไม่ได้ รัฐบาลนี้จะขับเคลื่อนหลายโครงการออกมาให้ได้ ซึ่งอาจทำให้ยอดการใช้จ่ายสูงขึ้น หากเรามีค้างไว้เยอะแล้วเบิกมาไม่ได้ ก็จะถูกไล่เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณอีก จะพันกันหมด

“ผมไม่ได้โกรธนักวิชากา รแต่เสนออะไรมาขอให้พูดด้วยข้อมูล หากสงสัยถามมาก็จะตอบ ทำความเข้าใจช่วยกันจะไม่ดีกว่าเหรอ อย่ามาจับผิดจับถูกอะไรตอนนี้ ผมไม่ได้ต้องการให้มันรั่วไหล หรือใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว ทุกคนทราบดีว่าผมเข้ามาทำอะไร ไว้ใจผมแต่ไม่ไว้ใจคนอื่นมันก็ยาก เพราะผมก็เข้ามาทำงานให้คนอื่นด้วย ผมพยายามจะกำกับดูแลให้ดีที่สุด ภายใต้กฎหมายระเบียบการเงินการคลัง ไปถามได้เลยว่ามีความแตกต่างกับทุกรัฐบาลที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะข้าราชการประจำเดิมๆก็ยังอยู่ ถามเขาเองแล้วกัน เพราะถ้าถามผมเดี๋ยวหาว่าผมคุยโม้โอ้อวดอีก มันไม่ใช่ ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีแผนรองรับเงินคงคลัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เงินคงคลังกับเงินสำรองเป็นคนละเรื่องกัน เงินสำรองเรามีสูงมาก ลำดับที่ 18 ของโลก เพราะไม่ได้ใช้จ่ายอะไรเยอะ ยังคงคลังอยู่อย่างนั้น และอันนั้นจะเป็นตัวสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังมีความแข็งแกร่งอยู่ในด้านการเงิน เพราะมีเงินสำรองไว้เยอะมาก เคยมีบางรัฐบาลคิดจะเอามาใช้ แต่ตนไม่ใช่ ก็เก็บไว้อย่างนั้น หลายประเทศก็เห็นว่าถ้าลงทุนในประเทศไทยแล้วมีปัญหา รัฐบาลไทยก็ยังมีเงินสำรอง นั่นแหละคือการสร้างความเชื่อมั่น

“เงินคงคลังตรงนี้มันน้อย แล้วโครงการเบิกจ่ายพอหรือไม่ ถ้าไม่พอก็กู้เงินมาเพิ่ม 6 อันไหนที่ไม่จำเป็นต้องกู้ยังไม่ต้องกู้ ทำไมจะต้องเอาเงินมากองไว้ หากกู้มาไม่ว่าจะเอามาจากไหนก็ตามจะต้องใช้ให้หมด โดยจะต้องมีโครงการที่ผ่านการตรวจสอบ ถ้าทำได้ก็ทำไป ไม่เช่นนั้นก็จะติดกันทั้งหมด เงินเหลือเยอะ โครงการทำไม่ได้ มีเงินเยอะจะมีประโยชน์อะไร แต่ถ้ามองว่าเอาเงินไปใช้อะไรตรงนี้ตรวจสอบได้เลย หน่วยราชการที่รับผิดชอบ ก็ไล่สอบกันไป ถ้าไม่ไว้ใจ ผมไม่ได้ปิดบังอะไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว