เล็งตั้งอกศจ.เพิ่ม 2 ชุดดูแลพัฒนาการศึกษา

เล็งตั้งอกศจ.เพิ่ม 2 ชุดดูแลพัฒนาการศึกษา

ตั้งกศจ.10 เดือนพบทำได้ดีเรื่องบริหารบุคคล เล็งตั้งอกศจ.เพิ่ม 2 ชุดดูแลพัฒนาการศึกษาและบริหารราชการ

ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดการประชุมสัมมนาการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาและการบริหาราชการของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยมีคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ผู้ตรวจราชการ ศธ.ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค (ศธภ.) เข้าร่วม โดยดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ. บรรยายตอนหนึ่ง ว่า จากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีการตั้ง กศจ.เพื่อแก้ไขปัญหาการศึกษา 4 เรื่อง คือ 1.ขาดการบูรณาการงานการศึกษาในพื้นที่ 2.แก้ไขปัญหาช่วงสายการบังคับบัญชาที่กว้าง 3.สร้างเอกภาพในการบริหารจัดการ และ4.ทำให้มีความคล่องตัวบริหารงานบุคคล จนถึงขณะนี้เป็นเวลา 10 เดือนแล้วนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2559 พบว่าบางเรื่องทำได้ดี โดยเฉพาะการบริหารงานบุคคลซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากครูอย่างมาก เพราะช่วยให้ครูสามารถย้ายไปโรงเรียนใดก็ได้ในจังหวัดเดียวกัน และย้ายข้ามเขตพื้นที่การศึกษาได้ มีการทำงานอย่างมีธรรมาภิบาล ขณะที่บางเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การบริหารโดยใช้จังหวัดเป็นฐาน ที่จะต้องบูรณาการงานของทุกองค์กรหลักใน ศธ.ซึ่งยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทุกคนยังติดภาพของการทำงานที่ขึ้นกับสังกัด การจัดสรรงาน การจัดสรรงบประมาณ และคนที่จะไปช่วยยังไม่เป็นรูปธรรมมากนัก 

ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานเดินหน้า ศธ.ได้มีหารือให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (อกศจ.) เพิ่มอีก 2 คณะ คือ อกศจ.พัฒนาการศึกษา และอกศจ.บริหารราชการ นอกจากนี้ จะมีการมาทำความชัดเจนในอำนาจหน้าที่ของส่วนกลาง ภาค จังหวัด และส่วนราชการของส่วนกลางที่ไปอยู่จังหวัดต่างๆ จะทำอย่างไรให้สอดรับกันชัดเจน และจะต้องมีการแบ่งงานกันให้ชัดว่า งานไหนส่วนกลางทำ งานไหนให้ภาคทำ งานไหนให้จังหวัดทำ หลังจากแบ่งงานแล้วจะต้องจัดสรรงบประมาณลงไปด้วยเลย เพื่อให้งานเกิดขึ้นมาได้ ตลอดจนมอบอำนาจในการกำกับและการบังคับบัญชาต้องชัดเจนมากขึ้น โดย ศธภ.ต้องเป็นคนดูแล ศธจ.ขณะที่ ศธจ.ต้องเป็นตัวหลักในการเชื่อมโยงทุกส่วนราชการของ ศธ.ในพื้นที่ ให้มีอำนาจบังคับบัญชาบางส่วน แต่ไม่ใช่เข้าไปควบคุม ซึ่งในเดือนมี.ค.นี้ จะมีการตั้งศูนย์ขับเคลื่อนการบริหารการศึกษาในภูมิภาคขึ้นที่ ศธ.เพื่อสนับสนุนติดตามการทำงานของ ศธภ.และศธจ.

"หลังรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่ ประกาศใช้จะต้องมีการปรับโครงสร้าง ศธ.แน่นอน ซึ่งชัดเจนแล้วว่าจะมีการกระจายอำนาจโดยใช้จังหวัดเป็นฐานที่จะต้องมีการบูรณาการงานของทุกแท่ง ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ปรับเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ดูทั้งเรื่องการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และความสามัคคีปรองดอง ดังนั้น ศธ.จะถือโอกาสนี้มาปรับทั้งในเชิงเนื้องานที่จะทำและวิธีการทำงาน นอกจากตั้งอกศจ.ขึ้นใหม่อีก 2 ชุดก็ต้องมอบอำนาจ มอบงาน และมอบเงินให้ด้วย ขณะที่สายบังคับบัญชามีรมว.ศึกษาธิการ  ปลัด ศธ. ผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ศธภ.ซึ่งดูแลในกลุ่มจังหวัดของตนเอง และศธจ.ที่มีส่วนราชการของแต่ละจังหวัด มีทั้งเรื่องการศึกษาขั้นพื้นฐาน การอาชีวศึกษา การศึกษาเอกชน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการอุดมศึกษา เพื่อให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น อะไรที่มีการมอบอำนาจให้ ศธจ.ได้ก็จะมอบนอกจากนี้ อาจจะมีการปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการ กศจ.ใหม่"ปลัด ศธ.กล่าว