เจ - จันทรบูรณ์ นักผจญภัยผู้พิชิตอันดับ 7 สนาม HK100

เจ - จันทรบูรณ์ นักผจญภัยผู้พิชิตอันดับ 7 สนาม HK100

คุยกับ ‘ซุปเปอร์เจ’ อันดับ 7 จาก HK 100 หนึ่งในงานวิ่งอัลตร้า-เทรลที่นักวิ่งอัลตร้าทั่วโลกใฝ่ฝัน บนเส้นทาง 100 กม. อันแสนทรหดในฮ่องกง

ปีนี้มีนักวิ่งไทยฝ่าฝันไป HK 100 หรือ Vibram Hong Kong 100 กันถึง 56 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากว่ากระแสการวิ่งเทรลและอัลตร้าที่เพิ่งบูมในช่วง 2 – 3 ปีนี้ จะผลักดันนักวิ่งไทยสายแข็งให้ไปสู่สนามระดับโลกได้เป็นจำนวนไม่น้อย แต่ที่ไม่ธรรมดายิ่งกว่า ก็คือคนไทยคนแรกที่สร้างสถิติเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 7 ของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด เป็นชาวเอเชียคนที่ 2 และเป็นคนไทยคนแรกที่เข้าเส้นชัย ด้วยเวลา10 ชั่วโมง 23 นาที 24 วินาที 

เจ - จันทรบูรณ์ เกรียงชัยไพรพนา คือผู้ที่สร้างสถิตินั้น แต่! บางคนอาจไม่คุ้นชื่อเขา เพราะชื่อของเจนั้นโด่งดังอยู่ในสายจักรยานเสือภูเขาและการแข่งขันผจญภัยมากกว่า การวิ่งอัลตร้าของเขามักเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันแนวผจญภัย และไปเป็นทีม เขาเพิ่งลงแข่งเดี่ยวในระยะไกลได้ไม่นาน แต่ศักยภาพของเขานั้นสั่งสมมานานแล้ว

ศักยภาพที่ซ่อนเร้น

เจบอกว่าเขาก็เหมือนเด็กบ้านนอกทั่วไปที่ชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง แล้วได้เข้าค่ายมวยเมื่ออายุ 9 ขวบ เจอยู่กับค่ายมวย 10 ปี จนอายุ 19 จากอาการบาดเจ็บของพี่ชาย ทางบ้านจึงขอให้เลิกเป็นนักมวย เจก็ไม่เคยหวนกลับไปต่อยมวยอีก แต่ระหว่าง 10 ปีของการฝึกฝนนั้นได้สะสมความแข็งแกร่งให้แก่เขาอย่างมาก การวิ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นปกติก่อนเริ่มซ้อมมวยอยู่แล้ว แต่เจซึ่งชอบขี่จักรยานมากกว่า ก็หันมาเอาดีกับการขี่เสือภูเขา หลังจากเรียนจบด้านการท่องเที่ยวแล้ว เขาก็มาเป็นไกด์จักรยานที่ปั่นจักรยานถึง 6 วันต่อสัปดาห์

ไกด์จักรยานเสือภูเขาแห่ง Mountain Biking Chaingmai ปั่นขึ้นลงดอยพานักท่องเที่ยวท่องเชียงใหม่ด้วยจักรยานมาหลายปี ตลอดเวลาเขาเพียงรักการปั่นแต่ไม่เคยลงแข่งงานใดเลย ทั้งที่ใครๆ ก็ถามว่าทำไมไม่ลงแข่งเสียที แต่เจไม่มีคำตอบอะไรให้นอกจาก เขาก็แค่มีความสุขเวลาขี่จักรยานเท่านั้น

จนกระทั่งในปี 2011 เจได้พบกับลูกค้าคนหนึ่ง ซึ่งถามหาไกด์ที่แข็งแรงที่สุด ปั่นจักรยานได้เจ๋งที่สุดในบริษัท นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เจได้พบกับไรอัน แบลร์ (Ryan S. Blair) ไดเรกเตอร์ของทีม The North Face Adventure Team หลังจากไปทริปจักรยานด้วยกัน ไรอันก็ชวนเจมาลงแข่ง The River Kwai Trophy Adventure Race 2011 ที่กาญจนบุรี โดยให้เจเป็นแขกรับเชิญของทีม จับคู่กับนักแข่งชาวออสเตรเลียคนหนึ่งในทีมของไรอัน คู่ของเจก็สามารถเบียดตัวเต็งคว้าแชมป์ไปได้เลย เส้นทางนักแข่งของเจจึงเริ่มต้นขึ้นจากจุดนั้น ไรอันชวนเจเซ็นสัญญาเข้าทีม The North Face Adventure Team / Champion System Team ปีนี้ก็เป็นปีที่ 7 แล้ว

การแข่งขันผจญภัย

หลังจากได้แชมป์ที่ริเวอร์แคว เจก็ได้ไปซ้อมกับทีมที่ฮ่องกงอยู่เดือนกว่า ระหว่างการซ้อมก็มีลงแข่งแอดเวนเจอร์ที่ประเทศจีน 2 รายการ ซึ่งเป็นการแข่งขันผจญภัย ที่มีทั้งวิ่งเทรล พายเรือ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และโรยตัวจากที่สูง ซึ่งอาจเป็นหน้าผาหรือถ้ำในป่า หรือตึกสูงในเมือง แล้วแต่สเตจที่ต้องผ่าน เป็นการแข่งขันประเภททีม 4 คน ซึ่งต้องทำกิจกรรมทุกอย่างด้วยกัน ออกตัวพร้อมกัน เข้าเส้นชัยพร้อมกัน

ทุกวันนี้เจก็ยังคงทำงานเป็นไกด์เสือภูเขาอยู่ที่เชียงใหม่ แต่อีกภาคหนึ่งเขาก็คือนักแข่งขันกีฬาผจญภัย และเดินทางแข่งขันผจญภัยหลายรายการในหลายประเทศ เช่น C3fit action Asia challenge Hong Kong ที่ฮ่องกง, Pengzhou Longmen Mountain International Mountain Outdoor Quest ที่เฉิงตู ประเทศจีน, Wulong Mountain Quest ที่ฉงชิ่ง ประเทศจีน, Remba Challenge ที่มาเลเซีย และ Expedition World Series, Cameco Cowboy Tough ที่ไวโอมิง สหรัฐอเมริกา เป็นต้น เจกลายเป็นคนที่หลงรักการแข่งขันไปแล้ว

ในปีนี้เจก็ยังมีการแข่งขันรออยู่อีกหลายรายการ สายแข่งที่เขาถนัดคือแอดเวนเจอร์ และเสือภูเขาก็จริง แต่ในช่วงปีที่ผ่านมาเขาก็เริ่มลงวิ่งอัลตร้า - เทรล

“ที่จริงระหว่างแข่งผจญภัย ผมก็วิ่งเทรลอยู่แล้ว แต่เป็นระยะสั้น 50 กม. วิ่งหลายรายการอยู่ ปีที่ผ่านมาก็วิ่ง Sky running Asian Championships National Series และ The North Face 100 Hong Kong ที่ฮ่องกง แต่แข่งไม่จบทั้ง 2 รายการ รายการแรกเพราะบาดเจ็บ ส่วนที่นอร์ธเฟซ ผมลืมอุปกรณ์บังคับ คือแจ๊กเก็ตกันฝน อุปกรณ์บังคับต้องมีครบ เขาเข้มงวดมาก เรา disqualify ทันที เพื่อความปลอดภัย ซึ่งผมเห็นด้วย ระยะนี้ (50 กม.) ผมวิ่งไม่เกิน 6 ชั่วโมง คิดว่าจบก่อนมืดได้ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าเราบาดเจ็บ ก็อาจใช้เวลานานกว่านั้น”

แล้วเจก็แก้มือได้ในเดือนมกราคม 2017 คว้าอันดับ 7 ใน Vibram Hong Kong 100 กลายเป็นชื่อใหม่ที่ขึ้นอันดับต้นในวงการวิ่งอัลตร้า - เทรล ในเมืองไทยทันที แต่เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ จะรู้ว่าเขาไม่ใช่หน้าใหม่เลย แต่เป็นคนที่สั่งสมศักยภาพมายาวนาน หลังจากนี้ นอกจากสนามแอดเวนเจอร์ที่ลงแข่งเป็นประจำแล้ว สนามอัลตร้า - เทรลระดับโลกอื่นๆ เจก็ต้องมีโอกาสได้ไปถึงอย่างแน่นอน

กีฬาพาสู่โลกกว้าง

เจไม่เคยคิดมาก่อนว่าจักรยานเสือภูเขาจะพาเขามาได้ไกลจนถึงจุดนี้ ได้ไปในที่ไม่เคยไป ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้ท้าทายขีดจำกัดของตัวเองที่ไกลออกไปเรื่อยๆ

“กีฬาให้อะไรหลายอย่างมากทั้งด้านชีวิตและการงาน ถ้าจะให้ผมหาเงินแล้วไปเที่ยวประเทศนั้นประเทศนี้ก็ยาก แต่การแข่งขันก็ให้อะไรเราหลายอย่าง ได้ทั้งความสนุกและได้เปิดหูเปิดตา ที่สำคัญนี่เป็นสิ่งที่ผมรักด้วยครับ”