เปิดใจหนุ่มโชคร้าย ตกเป็นแพะคดีปล้นรถขนเงินติดคุกฟรี

เปิดใจหนุ่มโชคร้าย ตกเป็นแพะคดีปล้นรถขนเงินติดคุกฟรี

เปิดใจหนุ่มโชคร้าย ตกเป็นแพะคดีปล้นรถขนเงินติดคุกฟรีร่วม 2 ปี ยังไม่คิดฟ้องใคร

จากกรณีที่ศาลอุทธรณ์ได้สั่งยกฟ้อง และพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคดี นายธนะชัย ยานู หรือโน้ต 1 ในผู้ต้องหาร่วมกันปล้นรถขนเงินบริษัท แซมโก้ ขณะพนักงานขนเงินกำลังจะนำเงินใส่เข้าตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ ที่หน้าห้างโลตัสเอ็กเพรส ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ได้เงินสดไปทั้งสิ้น 6,731,200 บาท โดยมีนายเจริญ เทพวงศ์ เป็นหัวหน้าแก๊ง ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี ส่วนนายธนะชัย ตำรวจได้ตั้งข้อหาให้เป็นคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาล และเดินขาเป๋ ดูต้นทางก่อนจะลงมือปล้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายชนพล รัฏฐาปกรณ์ ชื่นต้น ทนายความของนายธนะชัย ได้พาผู้สื่อข่าวไปที่บ้านเลขที่ 66/243 หมู่ 9 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อพบกับนายธนะชัย ซึ่งอาศัยอยู่กับนายโสภณ ยานู อายุ 65 ปี ผู้เป็นพ่อซึ่งเส้นเลือดในสมองตีบ เป็นอัมพฤกษ์เดินไม่สะดวก หลังจากนั้นนายธนะชัย กล่าวว่า ช่วงถูกจับกุมนั้นจำไม่ได้ว่าเป็นวันที่เท่าไหร่ แต่รู้ว่าเป็นวันจันทร์ ขณะนั้นกำลังทำงานที่ไปรษณีย์ตามปกติ ได้มีตำรวจนอกเครื่องแบบมาควบคุมตัวไป ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งได้แจ้งข้อหาว่าไปร่วมกันปล้นรถขนเงิน จึงได้ปฏิเสธไป แต่ตำรวจพยายามบังคับให้รับสารภาพ พร้อมทั้งพยายามสอนให้เดินขาเป๋ รวมทั้งให้ดูกล้องวงจรปิดช่วงที่เกิดการปล้นหลายเที่ยว จึงทำให้ชี้จุดเกิดเหตุได้อย่างถูกต้อง

“ต่อมาได้มีทนายเข้ามาช่วยเหลือ จึงได้ต่อสู้จนชนะคดี ตอนนี้ยังไม่อยากจะฟ้องร้องเอาผิดใคร แต่อยากได้โอกาสกลับคืนมาหลังจากติดคุกไปนาน 1 ปี 8 เดือน ตอนนี้ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว พ่อป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ที่สำคัญขาดโอกาสเพราะช่วงนั้นกำลังจะสอบเป็นพนักงานไปรษณีย์พอดี แต่ถูกตำรวจจับเสียก่อน” นายธนะชัย กล่าว

ด้าน นายชนพล รัฏฐาปกรณ์ ชื่นต้น ทนายความของนายธนะชัย กล่าวว่า ในเมื่อผู้เสียหายไม่ต้องการที่จะฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องจนกระทั่งถูกจำคุก ก็จะพยายามตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจ่ายค่าสินไหมช่วงที่ถูกจำคุก เพราะเสียโอกาสไปมากมาย ส่วนค่าตอบแทนในการสูญเสียอิสระภาพที่ทางกระทรวงยุติธรรมจะจ่ายให้นั้น ช่วงนี้ถึงแม้คดีจะสิ้นสุดในศาลอุทธรณ์แล้ว แต่อาจจะมีช่องทางการฎีกาขึ้นมาอีก ก็ต้องรอให้คดีถึงที่สุดจริงๆเสียก่อน จึงจะดำเนินการในการช่วยเหลือนายธนะชัย กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาเงินช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง

ขณะที่ นายโสภณ ยานู พ่อของนายธนะชัย กล่าวว่า ดีใจที่ลูกชายพ้นข้อหาปล้นรถขนเงิน ส่วนคนอื่นจะมองว่าลูกชายของตนไม่ได้ผิด ช่วงที่ลูกถูกจับ ตนเป็นอัมพฤกษ์ แต่ยังเดินได้ หลังจากเห็นหน้าลูกชายตอนถูกตำรวจจับ และเข้ามาค้นในห้อง อาการก็กำเริบ ตอนนี้เดินไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทนายความที่ให้ความช่วยเหลือ และนายประกันที่มาช่วยประกันตัวลูกชายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้อง จะได้กลับมาอยู่ในครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง