สสอ.บุรีรัมย์ รุกให้ความรู้ตรวจคัดกรองค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อน

สสอ.บุรีรัมย์ รุกให้ความรู้ตรวจคัดกรองค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อน

สสอ.บุรีรัมย์ร่วมกับ รพ.สต.และท้องถิ่นจัดสัปดาห์ราชประชาสมาสัย รุกให้ความรู้ตรวจคัดกรองค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่หลังพบผู้ป่วยกว่า200 ราย

สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) เมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปริงเปน และองค์การบริหารส่วนตำบลหลักเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จัด “สัปดาห์ราชประชาสมาสัย ให้ความให้ความรู้ประชาชนและตรวจคัดกรองโรคผิวหนังเนื้อชา(โรคเรื้อน)” ที่โรงเรียนไตรมิตรวิทยา ตำบลหลักเขต อำเภอเมือง เพื่อรณรงค์ให้ความรู้และกระตุ้นให้ประชาชนรู้วิธีดูแลป้องกันตนเองและสมาชิกในครอบครัวไม่ให้ป่วยด้วยโรคผิวหนังเนื้อชาหรือโรคเรื้อน เพราะเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง

เมื่อเข้าสู่ร่างกายเชื้อมักเข้าไปอาศัยอยู่บริเวณใต้ผิวหนัง และเส้นประสาทส่วนปลายภายในเวลา 3-5 ปี สูงสุด 12 ปี หากผู้ใดได้รับเชื้อไม่มีภูมิต้านทานต่อโรคจะมีอาการแสดงทางผิวหนังเป็นวงด่างสีจาง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาการจะลุกลามเป็นผื่นหรือตุ่มกระจายทั่วตัว

และเมื่อเกิดอาการอักเสบของเส้นประสาทส่วนปลายจะทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมเส้นประสาทฝ่อลีบ มือเท้างอ ข้อติดแข็ง และอาจถึงขั้นพิการได้ ดังนั้นหลายฝ่ายจึงจำเป็นต้องร่วมมือกันรณรงค์ให้ความรู้ในเชิงรุก พร้อมกันนี้ยังได้ระดมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพตำบล และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ (อสม.) เข้าไปทำการตรวจคัดกรองค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ และบริการตรวจรักษาฟรีให้แก่ชาวบ้านที่ป่วยโรคผิวหนัง และโรคเรื้อนด้วย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งจากข้อมูลสถิติพบว่าเมื่อปี 2550 จ.บุรีรัมย์เป็นพื้นที่ที่มีผู้ป่วยโรคเรื้อนในทะเบียนรักษาสะสมอยู่จำนวน 205 ราย

ด้าน นพ.อนันต์ กนกศิลป์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานว่า โรคผิวหนังเนื้อชาหรือโรคเรื้อนสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากเข้ารับการตรวจรักษาตั้งแต่เริ่มต้น ก็จะลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดความพิการได้ ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนได้ใส่ใจและเฝ้าระวังดูแลตนเอง สมาชิกในครอบครัวไม่ให้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวได้ พร้อมกันนี้ยังได้ขอความร่วมมือ อสม.ให้ทำการตรวจคัดกรองค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ที่ตกค้างอยู่ในชุมชนในเชิงรุกด้วย เพื่อให้ผู้ป่วยตื่นตัวรีบออกมารับการตรวจวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เริ่มเป็น  เพื่อป้องกันการติดเชื้อรุนแรงจนถึงขั้นพิการได้