MORNING CALL ACTION NOTES (30 ม.ค.60)

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อนอ่อนตัวลงจากแรงขายกลุ่มสายการบินข่าวสรรพสามิตเตรียมขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินจากเดิม 0.20 เป็น 4 บาท/ลิตร รวมถึงแรงขายทำกำไรระยะสั้นตามสัญญาณเทคนิค ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,590.80 จุด (-0.20 จุด) Vol. 4.1 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,055 ลบ. , TFEX Net -6,426 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+/- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลงหลังตัวเลข GDP Q4/59 อยู่ที่ 1.9% (ต่ำกว่าคาด)เนื่องจากการชะลอตัวของการส่งออก และการใช้จ่ายของผู้บริโภค -10.4% MoM สู่ระดับ 536,000 ยูนิต ต่ำสุดในรอบ 10 เดือน

- ราคาน้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 53 US/Barrel หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 15 แท่นสู่ 566 แท่น

+/- ทิศทาง Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Sell 1 พันลบ. แต่แนวโน้มค่าเงินบาทยังทรงตัวที่ราว 35.2 – 35.3 BATH/USD.

+/- รมว.คลัง คาดเริ่มใช้ระบบชำระหลักทรัพย์เป็น T+2 ได้ตั้งแต่ปี 61

- หุ้นกลุ่มสายการบิน สรรพสามิตรีดภาษีน้ำมันเครื่องบินจากเดิม 20 สตางค์/ลิตร เป็น 4 บาท/ลิตร โดยเก็บเฉพาะเที่ยวบินในประเทศ

** 31 ม.ค. – 1 ก.พ. ติดตามการประชุม FOMC คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.75%

** AOT แตกพาร์จาก 10 เป็น 1 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง คาดเทรดพาร์ใหม่ไม่เกินกลางเดือนก.พ.

** ตลาดหุ้นฮ่องกง จีน มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ (30 ม.ค.) เนื่องในเนื่องในเทศกาลตรุษจีน

**ประเด็นลบ –SCB KTB TISCO แม้ลูกหนี้กลุ่ม SSI กลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติแต่ธปท.สั่งแบงก์คงสำรองยาวเพื่อป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อน

ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจากแรงซื้อกลุ่มสินค้า Commodity รวมถึงการซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2559   อย่างไรก็ตามปัจจัยลบจากความผันผวนของ Fund Flow ต่างชาติเพื่อรอผลการประชุม FOMC ในวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ. จะเป็นแรงกดดันดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะผันผวนขาขึ้นโดยมีแนวต้านที่ 1,595 - 1,600 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- STA TRUBB ราคายางพาราพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีล่าสุด 367 Yen/Kg

- IVL ราคาฝ้ายพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ล่าสุด 74.9 US/Tons

- กลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงและคาดว่างบ Q4/59 รวมถึงงบปี 59 จะมีกำไรเติบโตขึ้น

- กลุ่มที่คาดว่ากำไรปี 2559 เติบโต PTT IRPC PTTGC TOP BANPU WICE SYNEX ANAN ORI FSMART BCH BIG SMT KCE BEAUTY BJC

หุ้นแนะนำพิเศษ

KKP  ราคาปิด 57.75 บาท  ราคา IAA consensus  เฉลี่ย 64.50 บาท

• กำไรสุทธิปี 59 = 5,547 ลบ. +67%YoY กำไรเบ็ดเสร็จรวม 5,756 ลบ. +85% (รวมกำไรเบ็ดเสร็จของธุรกิจตลาดทุนจำนวน 1,075 ลบ.จากการวัดมูลค่าหลักทรัพย์เผื่อขาย

• ปี 60 ตั้งเป้าสินเชื่อโตมากกว่า 5% จากกลุ่ม Corporate และ retail ตามแผนธุรกิจที่จะมุ่งเน้นรายย่อยมากขึ้น แนวโน้มสินเชื่อน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับจากปี 59 ที่สินเชื่อ -0.8% ชะลอตัวจาก -3.6% ในปี 58 โดยมีสินเชื่อที่ขยายตัวดีเกิน 100% ได้แก่สินเชื่อ Lombard +208% และสินเชื่อบุคคล +105% และสินเชื่อเคหะ +290%

• คุณภาพสินทรัพย์ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง %NPL ลดเหลือ 5.6% จาก 5.8% ในปี 58 Coverage Ratio ปรับดีขึ้นเป็น 110% จาก 92% ในปี 58 แต่ยังต่ำกว่ากลุ่ม (TISCO 140%, TCAP147%) ทำให้เห็นนโยบาย credit cost ปีนี้สูงกว่าปีที่แล้วโดยอยู่ที่ 1.2% เทียบกับ 0.7% ในปี 59

• yield สูงน่าสนใจ consensus คาด yield เฉลี่ย 6.6% จากคาดการณ์เงินปันผลหุ้นละ 3.32 – 4.40 บาท จ่ายระหว่างกาลแล้ว 0.20 บาท

หุ้นมีข่าว

- ประเด็นบวก TRC (ราคาปิด 1.62 ราคาเหมาะสม 1.75) ได้งานโครงการขยายถนนกัลปพฤกษ์มูลค่า 445.16 ลบ.,มีลุ้นได้งานสาธารณูปโภคจากกฟน.-กปน.เพิ่ม นอกจากนี้ PTT พร้อมเปิดประมูลงานท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 มูลค่า 9.6 หมื่นล้านบาท ผู้บริหาร ย้ำเปิดประมูลในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 นี้ ยืนยันยังเดินหน้าตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ (ที่มาทันหุ้น)

- ความเห็น TRC มีความเชี่ยวชาญในการวางท่อก๊าซธรรมชาติอีกทั้งมีการรับเหมาะก่อสร้างท่อก๊าซฯ ให้กับ PTT หลายครั้ง ฝ่ายวิจัยคาดว่า TRC จะมีโอกาสได้รับงานวางท่อก๊าซฯดังกล่าวสูงแม้จะมีคู่แข่งมาก เพราะโครงการดังกล่าวเป็นขนาดใหญ่ทำให้บริษัทเดียวไม่สามารถรับงานได้ทั้งหมด

- STA (ราคาปิด 28 บาท ราคาเหมาะสม IAA consensus 30-32 บาท) ได้รับประโยชน์จากราคายางพาราพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีหลังจากผ่านจุดต่ำสุดตั้งแต่ม.ค. 59 รวมทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวนในปี 59 ทำให้ supply ไม่เพิ่มขึ้น ประกอบกับฝนตกและสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ทำให้ออกกรีดยางไม่ได้กระทบกับ supply ขณะที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นช้ากว่าราคาขายส่งผลดีต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 60 จากที่ขาดทุนใน 3Q59 ทำให้กำไร 9M59 ลดลง 53%yoy เหลือ 545 ล้านบาท

- KTB (ราคาปิด 19.20 ซื้อ ราคาเหมาะสม 21.60 บาท) วางเป้าธุรกิจปี 2560 ยังเน้นการเติบโตอย่างมั่นคง เล็งเดินหน้าขยายสินเชื่อให้กับธุรกิจการค้าชายแดน หวังเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคและตลาด CLMV พร้อมวางงบลงทุนอีก 5 พันล้านบาท ยกระดับด้านเทคโนโลยี แย้มเตรียมดำเนินการขายที่ดิน AQ ภายในปีนี้ พร้อมบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาบางส่วน (ที่มา ทันหุ้น)

   ความเห็น : วงเงินกู้ของ AQ ราว 10,000 ล้านบาทมีหลักประกันเป็นที่ดิน 4,300 ไร่ซึ่งยังขายไม่ได้และไม่มีเงินมาชำระคืนหนี้ทำให้ ธนาคารนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์หลักประกันและให้อำนาจแก่ธนาคารสามารถนำหลักประกันมาขายทอดตลาดและชำระคืนหนี้ ทั้งนี้ KTB ได้ตั้งสำรองหนี้สูญแล้ว 100% หากขายที่ดินและรับชำระคืนหนี้ถือเป็น upside จากประมาณการของฝ่ายวิจัย อย่างไรก็ดี คาดว่าธนาคารจะนำกำไรพิเศษมาตั้งสำรองหนี้สูญบางส่วน

- SCI คว้างานเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง กฟผ.-กฟภ. มูลค่ารวม 850 ล้านบาท ลั่นธุรกิจขาขึ้นรับผลบวกกลุ่มโอเปอเรเตอร์ เร่งขยายลงทุนโครงข่าย 4G โบรกฯคาด Q4/59 พลิกกำไรพุ่ง 110 ล้านบาท จับตางบปี 60 กำไรโตกระโดด 180% แตะ 440 ล้านบาท (ข่าวหุ้น)

- 4 หุ้นสายการบินงานเข้า แบกภาระต้นทุนภาษีน้ำมันอ่วม กดดันกำไรปีนี้ทั้งกลุ่มลดฮวบ 2,500 ล้านบาท โบรกฯระบุ NOK เจอผลกระทบกำไรมากสุดเหตุพึ่งการบินในประเทศเป็นหลัก ส่วน AAV เลวร้ายสุดอาจกระทบต่อกำไร 25% ขณะที่ BA-THAI เลวร้ายสุดกระทบไม่เกิน 10% (ที่มา ข่าวหุ้น)

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -7.13 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,093.78 จุด ลดลง 7.13 จุด หรือ -0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,660.78 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,294.69 จุด ลดลง 1.99 จุด หรือ -0.09% หลังจากมีรายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2559 ของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและรอดูการพบปะกันของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.61 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 61 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 53.17 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐ และยังได้บดบังปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการปรับลดกำลังการผลิตของทั้งกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก

ส่องหุ้น

- WORK แนวรับ 52.25-51.50 บาท แนวต้าน 54.00 , 58.25 บาท

- ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวันและทำ New high ในรอบสัปดาห์อีกด้วย โดยปิดได้แถวๆ เส้น BollingerTop ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายทรงตัวได้ในระดับสูง และ MACD ดีดกลับขึ้นมายืนเหนือเส้น Signal ได้แล้ว หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 52.25-51.50 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 54.00 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 58.25 บาทต่อไป