‘ไทยพีบีเอส’ชูพรีเมียมคอนเทนท์-โหมมัลติ แพลตฟอร์ม

‘ไทยพีบีเอส’ชูพรีเมียมคอนเทนท์-โหมมัลติ แพลตฟอร์ม

การก้าวสู่ปีที่ 10 ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส“สื่อสาธารณะ”ในปีนี้

ได้วางวิสัยทัศน์สู่การเป็นผู้นำเสนอคอนเทนท์คุณภาพ เพื่อสร้าง“คุณค่า”และจุดประกายความคิดให้ผู้ชม ผ่าน "มัลติ แพลตฟอร์ม"ในสื่อยุคดิจิทัล

กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. กล่าวว่าปีนี้สถานีไทยพีบีเอสได้วางคอนเซปต์การนำเสนอรายการด้วย“พรีเมียม คอนเทนท์”คุณภาพ  สอดคล้องกับธีม “ติดปีกความคิด” ก้าวสู่ปีที่ 10 ของสถานี 

เริ่มจากการปรับผังรายการไพรม์ไทม์ใหม่ จันทร์-ศุกร์ เช่น วันจันทร์ นำเสนอรายการ “นโยบาย BY ประชาชน” โดยร่วมกับองค์กร change.org ที่จะเชิญตัวแทนคนทั่วไปเสนอไอเดียจากประเด็นใกล้ตัว ที่อยากให้เกิดขึ้นจริง  รูปแบบนำเสนอทั้งหน้าจอทีวีและโซเชียล มีเดีย เพื่อให้เกิดการพูดคุยเชิงสร้างสรรค์ ,วันอังคาร รายการรี เวดดิ้ง  นำเสนอความสัมพันธ์สำหรับครอบครัว, วันพุธ เชฟชนเชฟ การนำเสนอเมนูอาหารพิเศษ เช่น อาหารสำหรับเด็กที่มีภาวะอ้วน ,ผู้ป่วยโรคต่างๆ

“แนวคิดการนำเสนอคอนเทนท์มุ่งให้ผู้ชมเกิดไอเดียใหม่ จุดประกายความคิดให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสังคม  โดยต้องเป็นรายการที่มีความรู้ ดูสนุกและเกิดการมีส่วนร่วม”

ช่วงไตรมาส2 จะนำเสนอสารคดีระดับโลกของบีบีซี  ชุด Planet Earth II จำนวน 7 ตอน  ซึ่งนำเสนอทางสถานีฟรีทีวีในเอเชียเป็นรายแรก หลังจากสารคดีชุดนี้ออกอากาศทาง บีบีซี อังกฤษ และสหรัฐ นอกจากนี้ยังมีสารคดีต่างประเทศอีกหลายซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมานำเสนอต่อเนื่อง เช่น ท่องโลกกับ “เจมี่ โอลิเวอร์”

ด้านกีฬาจะนำเสนอรายการที่แตกต่าง ด้วยคอนเทนท์ที่ผสมผสานวัฒนธรรท เช่น การแข่งเรือยาว แข่งขันรถไถนา  เพื่อเสนอวัฒนธรรมและภูมิปัญญาแต่ละท้องถิ่น

“ยุทธศาสตร์ของไทยพีบีเอส จะมีการดีไซน์ คอนเทนท์ จากการวิเคราะห์ความต้องการเชิงลึกของผู้ชมทุกกลุ่ม เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาคอนเทนท์ที่แตกต่าง ตอบสนองความสนใจผู้ชมแต่ละวัย” 

การนำเสนอรายการจะเป็นรูปแบบ “มัลติ แพลตฟอร์ม” ทั้งจอทีวีและดิจิทัล แพลตฟอร์มทุกช่องทาง ทั้งเว็บไซต์ไทยพีบีเอส แอพพลิเคชั่น และโซเชียล มีเดีย ปีที่ผ่านมาทุกช่องทางออนไลน์เติบโต 100%  โดยมียอดวิวกว่า 300 ล้านวิว  เพิ่มขึ้นจาก 150  ล้านวิวในปี 2558  เช่นเดียวกับยอดผู้ติดตามทวิตเตอร์กว่า 1.9 ล้านราย รวมทั้งยอดไลค์เฟซบุ๊คเพจกว่า 3.3  ล้านราย  

ปีนี้จะพัฒนาการรับชมคอนเทนท์รูปแบบ“วีดิโอ ออนดีมานด์”ซึ่งเป็นช่องทางที่กำลังได้รับความนิยมและเติบโตทั่วโลก จากการพัฒนาเทคโนโลยี  การขยายตัวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน  ส่งผลให้ผู้ชมมีพฤติกรรมเสพคอนเทนท์แบบ“ทุกที่ ทุกเวลา” 

“เป้าหมายปีนี้จะนำเสนอคอนเทนท์ทุกรูปแบบในทุกแพลตฟอร์ม เพื่อดึงให้ผู้ชมใช้เวลากับไทยพีบีเอสเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่จะนำเสนอรายการพิเศษ ตอบโจทย์ความสนใจของกลุ่มที่ใช้อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย” 

ภายใต้แผนการยุติส่งสัญญาณโทรทัศน์ระบบอนาล็อกไทยพีบีเอสทั่วประเทศช่วงกลางปี 2561 ส.ส.ท.จะได้รับการจัดสรรทีวีดิจิทัล“ช่องเด็ก” เพิ่มอีก 1 ช่อง ขณะนี้ได้เริ่มศึกษาและวางคอนเซปต์พัฒนาช่องดังกล่าว โดยจะทำงานร่วมกับพันธมิตรองค์กรภาครัฐ เช่น ด้านการพัฒนาการศึกษา วิทยาศาสตร์ คุณภาพชีวิต  เพื่อร่วมลงทุนพัฒนาช่องรายการเด็กคุณภาพ เป็นคอนเทนท์ที่ทีวีดิจิทัล ปัจจุบันไม่นำเสนอ พร้อมทั้งพัฒนาช่องทาง“นิว มีเดีย”ทีวีช่องเด็กไปพร้อมกัน ทั้งนี้ ประเมินการลงทุนช่องเด็กอยู่ที่ 500-600 ล้านบาท  

ในวาระก้าวสู่ปีที่ 10  ของไทยพีบีเอส ได้เตรียมจัดตั้งคณะทำงานทั้งในประเทศจากองค์กรการศึกษาต่างๆ และคณะทำงานต่างประเทศ เช่น บีบีซี ยูเนสโก เพื่อประเมินผลการดำเนินงานของไทยพีบีเอสในฐานะสื่อสาธารณะที่ส่งเสริมด้านการให้ความรู้ พัฒนาคุณภาพชีวิต และการเปลี่ยนแปลงสังคม ซึ่งถือเป็นภารกิจของสื่อสาธารณะ  โดยวางกรอบการตั้งคณะทำงานและการวัดผลการทำงานในช่วง 3-6 เดือน เพื่อจัดทำเป็นรายงานเสนอต่อ สนช.ต่อไป 

"เราไม่ได้เป็นสื่อธุรกิจ แต่เป็นสื่อสาธารณะที่ต้องวัดผลด้านคุณค่า จากการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมในรูปแบบ Social return on investment (SROI)"