PTTGC - ซื้อ

PTTGC - ซื้อ

คาดผลการดำเนินงานกลับมาแข็งแกร่ง รวมทั้งมีอัพไซด์

ประเด็นการลงทุน

ในมุมมองของเรา แนวโน้มการเติบโตของกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนโดยอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากหลังการหยุดโรงงานทั้งตามแผนและนอกแผน, ค่าการกลั่นตลาดที่เพิ่มขึ้นและส่วนต่างราคาโอเลฟินส์ที่สูงขึ้นน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรปี 2560 จากส่วนต่างราคาบิวทาไดอีน (BD) และ เบนซีน (BZ) ทิอยู่ในระดับสูงมาก ทั้งนี้ ราคาหุ้น ณ ปัจจุบันยังค่อนข้างถูก โดยราคาหุ้นซื้อขายที่ PBV ปี 2560 ที่ 1.2 เท่า เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาวแต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 1.8 เท่า ค่อนข้างมาก

คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/59 แข็งแกร่ง

เราคาดว่า PTTGC จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/59 ที่ 7,012 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% YoY และ 13% QoQ กำไรจากสต๊อกน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและการดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นปัจจัยเบื้องหลังที่หนุนการเติบโตของกำไรสุทธิ หากไม่นับรวมคาดการณ์กำไรสต๊อกน้ำมันที่ 911 ล้านบาท และคาดการณ์ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 332 ล้านบาท กำไรหลักไตรมาส 4/59 คาดว่าจะอยู่ที่ 6,353 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY และ 58% QoQ โดยปัจจัยหลักเบื้องหลังการเติบโตของกำไรหลักได้แก่ 1) ค่าการกลั่นตลาดที่เพิ่มขึ้น (QoQ), 2) ปริมาณขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้น ( YoY และ QoQ) (ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน), 3) ส่วนต่างราคาโอเลฟินส์สูงขึ้น (YoY) และ 4) ส่วนต่างราคาเบนซีนปรับตัว
สูงขึ้น (YoY และ QoQ) (รูป 1และ2)

ช่วงไฮซีซั่นของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและค่าการกลั่นที่แข็งแกร่งจะหนุนการเติบโตของกำไรในไตรมาส 1/60

โดยปกติแล้วช่วงไตรมาสแรกจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี นอกจากนั้นแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นจะช่วยหนุนราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีให้ปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกัน ในขณะที่ต้นทุนก๊าซจะปรับตัวขึ้นช้ากว่า ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนต่างราคาปิโตรเคมี  โดยเฉพาะโอเลฟินส์ คาดว่าจะขยายตัวทั้ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 1/60 อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างราคา PX คาดว่าจะอ่อนตัวลงทั้ง QoQ และ YoY ในไตรมาส 1/60 เนื่องจาก บริษัท Reliance (ของประเทศอินเดีย) เริ่มการดำเนินการผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ ขนาด 1.4 mta (เทียบเท่ากับ 3.3% ของกำลังการผลิตในอาเซียนและตะวันออกกลาง) แต่ส่วนต่างราคาเบนซีนที่แข็งแกร่งซึ่งหนุนจากกำลังการผลิตใหม่ที่น้อยลงจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากส่วนต่างราคา PX ที่อ่อนตัวลง

ขณะที่ค่าการกลั่นตลาดอ้างอิงตลาดสิงคโปร์คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง QoQ อยู่ที่ประมาณ 7 เหรียญต่อบาร์เรล หนุนจากอุปสงค์ในช่วงฤดูหนาว แต่อย่างไรก็ตามเราคิดว่าอัพไซด์ของค่าการกลั่นตลาดจะมีจำกัด เนื่องจากกำลังการกลั่นที่ 800 KBD (ประเทศซาอุดิอาระเบีย) จะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติหลังจากปิดซ่อมบำรุง และจะมีกำลังการกลั่นใหม่อีก 440 KBD เข้ามาในไตรมาส 1/60 ในด้านการดำเนินงาน


ขณะที่เราคาดว่าบริษัทจะดำเนินการผลิตอย่างเต็มกำลังทั้งโรงกลั่นและโรงงานอะโรเมติกส์ อัตราการใช้กำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์โอเลฟืนส์จะปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากการปิดปรับปรุงโรงงานที่ลดลง ดังนั้นกำไรหลักในไตรมาส 1/60 ของ PTTGC คาดว่าจะขยายตัวทั้ง YoY และ QoQ

มีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรจากราคายางและส่วนต่างราคา BZ ที่เพิ่มขึ้น

ราคายางธรรมชาติและส่วนต่างราคา BZ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบันจะส่งผลเชิงบวกต่อ PTTGC เนื่องจากบริษัทมีการผลิต BD (เพื่อใช้สำหรับการผลิตยางสังเคราะห์) (กำลังการผลิต 75 KTA) ซึ่งราคามีความสัมพันธ์เชิงบวก (+78%) กับราคายางธรรมชาติ ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของยางธรรมชาติในปี2560 จนถึงปัจจุบัน ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 250 เซ็นต์ต่อกก. จาก 164 เซ็นต์ต่อกก.ในปี 2559 ราคาเฉลี่ยของ BD ในปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากมาอยู่ที่ 2,700 เหรียญต่อตัน จากเดิมที่ 1,126 เหรียญต่อตันในช่วงเวลาเดียวกัน จากผลการศึกษาของเราบ่งชี้ว่าจะอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิของ PTTGC ในปี 2560 อยู่ที่ 9% ถ้าหากค่าเฉลี่ยราคาของผลิตภัณฑ์บิวทาไดอีนอยู่ที่ 2,000 เหรียญต่อตันในปีนี้ (รูป3) ยิ่งไปกว่านั้นความต้องการที่แข็งแกร่งของ BZ หนุนให้ส่วนต่างราคา BZ เฉลี่ยเพิ่มขึ้น (กำลังการผลิตอยู่ที่ 697 KTA) มาอยู่ที่ 409 เหรียญต่อตัน ในปี 2560 จนถึงปัจจุบัน (เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 250 เหรียญต่อตัน) นั่นหมายถึงแนวโน้มอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรปี 2560 อีกส่วนหนึ่ง (รูป 4)