MORNING CALL ACTION NOTES (27 ม.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (27 ม.ค.60)

ซิกแซกขึ้น

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้น ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัล ทรัมป์ในการปรับลดภาษีและการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค รวมถึงแรงซื้อดักงบและปันผลปี 2559 โดยเป็นแรงซื้อในกลุ่มขนส่งและพลังงาน หนุนให้ SET ปิดที่ 1,591.00 จุด (+6.71 จุด) Vol. 7.1 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +3,203 ลบ. , TFEX Net -2,083 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 20,000 จุด ตอบรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ แม้ว่าจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 22,000 ราย สู่ระดับ 259,000 ราย รวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. -10.4% MoM สู่ระดับ 536,000 ยูนิต ต่ำสุดในรอบ 10 เดือน

+ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นล่าสุด 53.8 US/Barrel จากความคืบหน้าการปรับลดกำลังการผลิต โดยกลุ่มในและนอกโอเปกลดการผลิตน้ำมันจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ใกล้เคียงกับระดับ 1.8 ล้านบาร์เรล/วันที่ตกลงกันไว้

+/- ทิศทาง Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Buy 3.2 พันลบ. แต่แนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยที่ 35.3 BATH/USD.

- กลุ่มสายการบิน สรรพสามิตรีดภาษีน้ำมันเครื่องบินจากเดิม 20 สตางค์/ลิตร เป็น 4 บาท/ลิตร (ข่าวหุ้น)

** IFEC ผิดนัดชำระตั๋วบี/อี 200 ล้าน รวมยอดเดิมผิดนัดแล้ว 500 ล้าน ส่งผลหุ้นกู้ 3 พันล้าน ครบกำหนดชำระทันที

** EFORL คืนหนี้ตั๋ว B/E 50 ลบ.ให้ บลจ.โซลาริส ตามกำหนด 26 ม.ค.

** ตลท.เพิกถอนหุ้น TPC มีผล 30 ม.ค.,เทรดวันสุดท้าย 27 ม.ค.

** ตลาดหุ้นจีน ไต้หวันปิดทำการวันนี้ (27 ม.ค.) เนื่องในเทศกาลตรุษจีน

ตลาดหุ้นไทยได้ sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น , Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Buy 3.2 พันลบ. รวมถึงแรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2559 ที่กำลังทยอยประกาศ อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากภาวะ Overbought ตามสัญญาณเทคนิคจะทำให้ตลาดผันผวน ดังนั้นประเมินว่า SET จะซิกแซกขาขึ้นโดยมีแนวต้านที่ 1,595 - 1,600 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- STA TRUBB ราคายางพาราพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีล่าสุด 333 Yen/Kg

- กลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงและคาดว่างบ Q4/59 รวมถึงงบปี 59 จะมีกำไรเติบโตขึ้น

- AOT เผยดอนเมืองมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3.8% เที่ยวบินโต 4.5%ในช่วงเทศกาลตรุษจีน และลุ้นโหวตพิจารณาแตกพาร์จาก 10 เป็น 1 บาท

- IVL ราคาฝ้ายพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ล่าสุด 74.2 US/Tons

- กลุ่มที่คาดว่ากำไรปี 2559 เติบโต PTT IRPC PTTGC TOP BANPU WICE SYNEX ANAN ORI FSMART BCH BIG SMT KCE BEAUTY BJC

หุ้นแนะนำพิเศษ

PSH    ราคาปิด 23.80 บาท    ราคาเหมาะสม 28 บาท

• ฝ่ายวิจัยคาดกำไร Q4 จะสูงสุดรายไตรมาส อยู่ที่ราว 2.6 พันลบ. +177%qoq -14%yoy ส่งผลให้กำไรปี 59 อยู่ที่ 6.64 พันลบ. -13%yoy และคาด DPS ปี 59 1.49 บาท จ่ายระหว่างกาล 0.60 บาท เหลือจ่าย 0.89 บาท yield 3.7%

• ปี 60 เป้ารายได้ 50,200 ลบ. +9% เป้ายอดขาย presale 52,900 ลบ. +19% มีแผนเปิดขายโครงการใหม่ 72 โครงการมูลค่าราว 60,800 ลบ.โดยมีกลุ่มบ้านราคา 3-5 ลบ.เป็น driver หลัก ปีนี้มีแผนเพิ่มพอร์ตสินค้าพรีเมี่ยม 5 โครงการ Q1 จะเปิด 2 โครงการคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว

• Gross margin ปี 60 มีแนวโน้มดีกว่าปี 59 แต่มีแรงกดดันจากคชจ.ขายและบริหารจากการปรับมาผลิตสินค้าพรีเมี่ยมและการย้ายสนง.

• ผู้บริหารยังไม่เปิดเผยธุรกิจใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างขออนุมัติบอร์ดโดยจะชี้แจงในวันที่ 17 ก.พ.

หุ้นมีข่าว

- PTTEP (ราคาปิด 98.50 ราคาเหมาะสม 97) พลิกกลับมากำไรปี 59 ที่ 1.28 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 140%YoY เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายด้อยค่า 4.98 หมื่นล้านบาทเหมือนในปี 58 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามผลประกอบการไตรมาส 4/59 พลิกขาดทุนราว 8 ร้อยล้านบาทเนื่องจากมีการบันทึกด้อยค่าจากหลุมเยตากุนและนาทูน่า ซี เอราว 47 ล้านดอลลาร์ และมีรายจ่ายภาษีเงินได้ที่เกิดจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนอีกราว 127 ล้านดอลลาร์สหรัฐมากดดัน โดยหากไม่รวมรายการดังกล่าว PTTEP จะมีกำไรปกติราว 123 ล้านบาทหรือ 4.3 พันล้านบาท –7%YoY และ -20%QoQ พร้อมกันนี้ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลอีก 2.5 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนทั้งปีที่ 3.3%

- ประเด็นลบ PTT (ราคาปิด 420 Bloomberg Consensus 401) สรรพสามิต รีดภาษีน้ำมันหล่อลื่นโดนด้วยถูกเก็บลิตรละ 5 บาท จากเดิมไม่เก็บ (ที่มาข่าวหุ้น)

  ความเห็น PTT เป็นผู้ขายอันดับ 1 ในตลาดน้ำมันหล่อลื่นประมาณ 180-200 ล้านลิตรต่อปีซึ่งหากมีการประเก็บภาษีน้ำมันหล่อลื่นจะส่งผลกระทบต่อ PTT ราว 900-1,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะส่งผลกระทบด้านลบราว 0.3-0.4 บาทต่อหุ้น

- TMB (ราคาปิด 2.34 บาท ถือ ราคาเหมาะสม 2.53 บาท) วางเป้าสินเชื่อรายใหญ่ปี 2560 เติบโต 2-3% พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อให้มีสมดุลหวังช่วยลดความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงจนกระทบมาร์จิ้น พร้อมทุ่มงบลงทุน 2-3 พันล้านบาท พัฒนาระบบเทคโนโลยี และเปิดตัว TMB Business Touch ตอบโจทย์ลูกค้าเอสเอ็มอี คาดมีผู้ใช้บริการ 2 หมื่นรายในสิ้นปี 2560 (ที่มา : ทันหุ้น)

   ความเห็น : ปี 60 ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 8-10% โดยมองว่าลูกค้ากลุ่ม SME ปีนี้น่าจะเติบโตดีกว่าปีก่อนจากฐานการเติบโตหดตัวโดยยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ คาดกำไรสุทธิปี 60 ราว 9.8 พันล้านบาทพลิกกลับมาเติบโต 19% จากปี 58

- ประเด็นบวก CPF-GFPT-TFG - กลุ่มส่งออกไก่ตีปีกได้อานิสงส์ไข้หวัดนกระบาดหลายประเทศ ดันดีมานด์พุ่ง กรมปศุสัตว์คาดการส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ปี 60 เพิ่มขึ้นเป็น 760,000 ตัน กวาดรายได้เข้าประเทศกว่า 97,900 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

- AKR เผยโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ 3.35 MW เริ่ม COD แล้ว หนุนรายได้ 26 ลบ./ปี

- PSTC เข้าซื้อโรงไฟฟ้าไบโอแมส"ขุดพัดเพ็ง"ถือ PPA 0.98 MW มูลค่าลงทุนทั้งโครงการ 95.2 ลบ.

- DCORP จะใช้เงิน 126 ลบ.ซื้อหุ้น 40% พร้อมลงทุนก่อสร้างโซลาร์ฟาร์ม 50 MW ในฟิลิปปินส์,COD ปี 60

- AOT เผย 17 สายการบินขอเพิ่มเที่ยวบินเข้าสุวรรณภูมิช่วงตุรษจีน คาดผู้โดยสารพุ่งเป็น 1.8 แสนคน/วัน (วันนี้ประชุมผถห.อนุมัติแตกพาร์จาก 10 บาทเป็น 1 บาท)

- ICHI เปิดตัวน้ำผลไม้ 100%-น้ำผลไม้เยลลี่พร้อมดื่ม ดันยอดขายรวมปีนี้ที่ 7.45 พันลบ.

- IVL เปิดสายการผลิตเส้นใยสำหรับยางรถยนต์ใหม่ในจีน เริ่มผลิตต้นปี 61 กำลังผลิต 6 หมื่นตัน/ปี


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +32.40 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,100.91 จุด เพิ่มขึ้น 32.40 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,655.18 จุด ลดลง 1.16 จุด หรือ -0.02% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,296.68 จุด ลดลง 1.69 จุด หรือ -0.07% ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทคอมแคสต์ อย่างไรก็ตาม ดัชนี NASDAQ และ S&P500 ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน

ตลาดน้ำมัน NYMEX +1.03 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดเหนือระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการ ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดกำลังการผลิต