จ๊าก! แพทย์ใหม่สธ.บรรจุปี59 วืดเงินเดือนข้ามปีนาน8เดือน

จ๊าก! แพทย์ใหม่สธ.บรรจุปี59 วืดเงินเดือนข้ามปีนาน8เดือน

หวั่นขวัญกระเจิง! แพทย์ใหม่สธ.บรรจุปี59 วืดเงินเดือนข้ามปีนาน8เดือน กลัวหนีออกนอกระบบราชการซบอกเอกชน

นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร ประธานสมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) กล่าวว่า ขณะนี้พบปัญหาว่าแพทย์จบใหม่ที่เข้ารับราชการในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั่วประเทศ ที่บรรจุประมาณเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 ยังไม่ได้รับเงินเดือนเลยจนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ.2559 ข้ามมาถึงมกราคม พ.ศ.2560 เป็นเวลาราว 8 เดือนแล้วกลายเป็นเงินตกเบิกที่แพทย์จบใหม่เหล่านี้จะได้รับย้อนหลัง

อย่างไรก็ตาม ทราบว่าบางแห่งเริ่มมีการทยอยตกเบิกตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา ส่วนใหญ่น่าจะได้รับเงินเดือนตกเบิกราวๆ เดือนก.พ. ซึ่งเงินเดือนของแพทย์จบใหม่และบุคลากรสาขาอื่นๆ ที่บรรจุเป็นข้าราชการ จะขึ้นอยู่กับขั้นตอนการบรรจุ ต้องมีเลขตำแหน่งที่จะบรรจุ โดยในรอบบรรจุนี้ สธ.ส่งเลขตำแหน่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2559 ส่งผลให้ก่อนที่เลขตำแหน่งของแพทย์แต่ละคนจะไปถึงโรงพยาบาลไม่สามารถจ่ายเงินเดือนได้

นพ.ประดิษฐ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คงมีปัญหาในการบริหารตำแหน่งข้าราชการของปี 2559 แต่ยังไม่ทราบเหตุผลลึกๆ ที่แท้จริงเพราะที่ผ่านมาไม่เคยนานขนาดนี้ รอแค่ 2-3 เดือนก็ตกเบิกหรือจ่ายเงินย้อนหลังได้แล้ว และก็ไม่แน่ใจว่ามีการประสานกันดีแล้วหรือยัง ระหว่างผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบรรจุข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเอง ผู้บริหาร ก.พ. และกระทรวงการคลัง แต่ที่ผ่านมาเรามีการพูดคุยกันและสะท้อนกันในแวดวงสาธารณสุขมาตลอด ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลปัญหาและผลกระทบเพื่อเสนอต่อผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบต่อไป

“เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ น้องๆ จบใหม่ รับราชการนอกจากภาระงานที่หนักแล้วเงินเดือนก็ไม่ออกหลายเดือน แถมค่าตอบแทนพีฟอร์พี (ค่าตอบแทนตามภาระงาน) ในหลายๆ โรงพยาบาลก็ค้างจ่ายเป็นภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ความประทับใจแรกไม่ดี แล้วอย่างนี้จะทำให้คนรักองค์กร รักระบบราชการได้อย่างไร ยิ่งตอนนี้โรงพยาบาลเอกชนกำลังบูมมาก มีกำไร ให้ค่าตอบแทนกับแพทย์สูง มีการขยายโรงพยาบาลออกไปในแทบทุกจังหวัด ในขณะที่โรงพยาบาลของรัฐกลับมีแต่ขาดทุน ทำงานลำบาก ค่าตอบแทนน้อยแล้วยังค้างจ่ายอีก ถ้าคนของเราอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แล้วมีแรงดึงจากภาคเอกชนที่มีค่าตอบแทนสูง ภาระงานไม่หนักมากก็น่าเป็นห่วงเรื่องการไม่สามารถดึงคนให้อยู่ในระบบได้ ที่ผ่านมามีการคุยกันอยู่เสมอว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรที่สำคัญเราต้องดูแลคุณภาพชีวิตของเขาด้วย ซึ่งที่ผ่านมาคิดว่ายังดูแลเขาน้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าตอบแทน ภาระงาน เรื่องการฟ้องร้องต่างๆ เราคิดว่ายังได้รับการดูแลน้อยอยู่” นพ.ประดิษฐ์ กล่าว

ด้านนพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วิชาชีพแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร เป็น 3 สาขาที่ทุกปีกระทรวงจะขอตำแหน่งไปที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งจะมีคณะกรรมการดูแล แต่ปีที่ผ่านมาก.พ.ให้มาช้าแล้วบอกว่าสธ.ให้ข้อมูลไม่ครบ และไม่ใช่ตำแหน่งของสธ. ซึ่งก.พ.ส่งกลับมาที่สธ.ในเดือนพฤศจิกายน 2559 จากนั้นสธ.นำเข้าคณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวงสาธารณสุข (อ.ก.พ.สธ.) พิจารณาแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนธันวาคม พ.ศ.2559 แล้วจึงทำเรื่องตกเบิก ข้าราชการใหม่จึงไม่ได้รับเงินเดือนมา 8-9 เดือน แต่ในเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัวของแพทย์ รพ.ได้มีเงินให้บุคลากรยืมโดยไม่เสียดอกอยู่แล้ว

“การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต้องแก้ทั้งระบบ เพราะสธ.พยายามขอตำแหน่งไปแล้ว ส่วนอื่นๆ ก็ต้องช่วยเหลือกันด้วย การยื้อต่างๆ แล้วส่งกลับมาช้าก็กระทบกับคนทำงาน เรื่องนี้เป็นขวัญกำลังใจที่จะช่วยให้สธ.สามารถรักษาคนไว้ในระบบได้ ระบบตรงนี้มันไม่ได้อยู่ที่สธ.เพียงอย่างเดียวแต่เล่นปัดอย่างนี้ สธ.ก็เดือดร้อนเหมือนกัน” นพ.โสภณ กล่าว