เร่งล่าสาวเพี้ยนใช้น้ำร้อนสาดชาวบ้านย่านดินแดง

จากกรณีที่มีหญิงสาวลักษณะคล้ายคนสติไม่ดี อาละวาดใช้น้ำร้อนเดินสาดใส่ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงหลายราย ที่บริเวณหน้าสำนักงาน ป.ป.ส. ถนนดินแดง แขวงถนนสามเสนใน เขตพญาไท ซึ่งมีผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หญิงของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลพุพองต้องรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด ได้มีผู้เสียหาย 3 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หญิงของสำนักงาน ปปส. เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ชาญชัย คำมาโฮม รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำ โดยหนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ กำลังเดินมาทำงานตามปกติ จังหวะที่หันไปไหว้พระพรหม ก็ถูกหญิงคนดังกล่าว ซึ่งไม่เคยพูดคุยหรือรู้จักกันมาก่อนสาดน้ำร้อนใส่ตัว ก็รู้สึกตกใจ จากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็หันมาสาดใส่อีกครั้ง แล้วถามว่า "ร้อนไหม" ก่อนจะพูดบ่นอะไรก็ไม่ทราบ แล้วเดินหนีไป หลังจากนั้นก็รู้สึกแสบร้อนตามบริเวณท้ายทอยที่ถูกสาด จึงรีบไปรักษาตัวที่ รพ. นอกจากนี้ยังทราบว่า มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.คนอื่นๆอีกที่โดนหญิงคนดังกล่าวสาดน้ำร้อนใส่ จึงเดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจในวันนี้

ด้าน นายสันติ ถึงคำภู อายุ 35 ปี รปภ.ของสำนักงาน ปปส.กล่าวว่า เมื่อหลายเดือนก่อนเคยพบเห็นหญิงคนดังกล่าวเดินเข้ามาวนเวียนไปมาอยู่หน้าสำนักงาน ปปส. โดยตนจำได้ว่า เคยก่อเหตุเอาร่มตีคนเดินผ่านไปมา จึงเชิญตัวออกไปจากบริเวณนั้นเพราะเกรงว่าจะมาทำร้ายคนอื่นอีก จากนั้นก็หายหน้าไปสักพัก จนกระทั่งวันที่ 23 ม.ค.ก็เห็นหญิงคนดังกล่าวเดินวนเวียนไปมาอีกรอบ แต่ไม่ทราบว่าก่อเหตุสาดน้ำร้อนใส่คนที่เดินผ่านไปมาหลายคนแล้ว แต่ตนสังเกตเห็นว่าในมือถือขวดน้ำอยู่ เมื่อจับดูก็รู้ว่าเป็นน้ำร้อน จึงแย่งขวดมาเททิ้งแล้วก็เชิญตัวออกนอกพื้นที่ไป

ต่อมา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ได้เรียก พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.ดินแดง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้าประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ก่อนเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุก็รู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชน จึงลงมาตรวจสอบคดีนี้ด้วยตนเอง เพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำผิดโดยเร็ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยมาให้ผู้เสียหายดูตัวแล้วหลายราย แต่ปรากฏว่ายังไม่ใช่ตัวผู้ก่อเหตุ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามตัวต่อไป ทั้งนี้ หากได้ตัวผู้กระทำผิดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนวิกลจริตหรือไม่ ก็ต้องแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายไว้ก่อน จากนั้นก็จะส่งตัวให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยว่าวิกลจริตหรือไม่ หากขณะก่อเหตุไม่รู้ผิดชอบชั่วดีหรือพอจะรู้ตัวอยู่บ้าง ศาลก็อาจจะพิจารณาลงโทษสถานเบาได้