ครม.ไฟเขียวแก้ไขร่างพ.ร.บ.ธนาคารเพื่อการส่งออกฯ

ครม.ไฟเขียวแก้ไขร่างพ.ร.บ.ธนาคารเพื่อการส่งออกฯ

ครม.เห็นชอบการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศ หนุนการส่งออก - ลงทุนทั้งในและตปท.

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบหลักการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ.2536 ซึ่งประกอบด้วยเพิ่มเติมอำนาจในการดำเนินงานของธนาคาร และแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการคำนวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบันที่ได้มีการยกเลิกทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราแล้ว

สำหรับรายละเอียด คือ ให้ธนาคารรับประกันในส่วนที่ขายในประเทศที่เป็นธุรกิจเพื่อการส่งออกได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนมีต้นทุนในการทำประกันที่ต่ำลง นอกจากนี้ ยังให้ธนาคารรับประกันความเสี่ยงในการที่ธนาคารของผู้ส่งออกหรือผู้ลงทุนถูกเรียกร้องให้ชำระเงินตามหนังสือค้ำประกันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ซึ่งเดิมไม่สามารถทำได้ รวมทั้งให้อำนาจธนาคารในการรับประกันต่อและรับประกันต่อรับประกันร่วม หรือ เป็นนายหน้ารับประกัน ที่เกี่ยวข้องกับการรับประกันความเสี่ยงดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังขยายขอบเขตในการรับประกันความเสี่ยงในการลงทุนในต่างประเทศให้แก่ผู้ลงทุนที่ไม่ได้ขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และการรับประกันสินเชื่อเพื่อการลงทุนให้แก่ธนาคารของผู้ลงทุน เนื่องจากปัจจุบันธนาคารสามารถรับประกันความเสี่ยงในการลงทุนในต่างประเทศได้เฉพาะกิจการที่ธนาคารให้การสนับสนุนสินเชื่อเท่านั้น

ในส่วนของด้านอัตราแลกปลี่ยนที่ใช้ในการคำนวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยสำหรับยอดรวมของเงินกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศ ที่ขอให้รัฐบาลค้ำประกัน โดยให้อ้างอิงตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะแทน เนื่องจากพ.ร.บ.ดังกล่าวนั้น กำหนดให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราตามอัตราถัวเฉลี่ยประจำวันที่ทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในการคำนวณยอดรวมเงินกู้ของธนาคารที่ขอให้ค้ำประกัน

ทั้งนี้ มองว่า การแก้ไขร่างดังกล่าวนั้นจะทำให้ธนาคารสามารถทำธุรกรรม เพื่อสนับสนุนการส่งออกและการลงทุนได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งของธนาคาร และมีบทบาทที่ชัดเจนในการให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในต่างประเทศ