GLOBAL - ซื้อ

GLOBAL - ซื้อ

ของดีในราคาเป็นกันเอง

ประเด็นการลงทุน

GLOBAL ยังคงเป็นหุ้นที่เราแนะนำ ซื้อ อันดับต้นๆในกลุ่มค้าปลีก แม้ว่าการบริโภคในประเทศจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่กำไรปี 60 ของ GLOBAL น่าจะขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งถึง 30% (ไม่รวมผลกระทบการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางบัญชี) ซึ่งสูงเป็นอันดับที่สองในกลุ่ม นอกจากนี้ราคาหุ้นปัจจุบันยังถือว่าน่าสนใจโดยมี PEG อยู่ที่เพียง 1 เท่า ซึ่งต่ำที่สุดในกลุ่ม เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2560 มาอยู่ที่ 20.10 บาท จาก 18.10 บาท จากกระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นหลังการเปิดใช้ศูนย์กระจายสินค้า


กำไรน่าจะยังคงเติบโตแข็งแกร่งแม้ยอดขายจะชะลอตัว

ยอดขายต่อสาขาเดิมไตรมาส 4/59 น่าจะอ่อนตัวลงประมาณ 2.5% เนื่องจากอุปสงค์ในต่างจังหวัดที่อ่อนตัว อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรน่าจะยังคงเติบโตแข็งแกร่งที่ 58% YoY เป็น 301 ล้านบาทในไตรมาส 4/59 ส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้น โดยเราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะขยายตัว 260bps มาอยู่ที่ 20.7% ในไตรมาส 4/59 จากสัดส่วนของสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ และสินค้าตกแต่งที่สูงขึ้น สำหรับปี 2560 นั้น แม้ว่าเราไม่ได้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเหมือนในปี 2559 แต่กำไรน่าจะเติบโต แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องที่ประมาณ 30% (ไม่รวมผลกระทบการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางบัญชี) เนื่องจากการขยายสาขาจะกลับมาเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนการเติบโต ในปีที่ผ่านมา GLOBAL เปิดให้บริการ 8 สาขา ซึ่งจำนวน 6 สาขา เปิดให้บริการในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 บริษัทมีแผนที่จะขยายอีก 8 สาขาในปีนี้


ศูนย์กระจายสินค้าหนุนให้อัตรากำไรปรับตัวดีขึ้น

ศูนย์กระจายสินค้าแห่งแรกของ GLOBAL สร้างเสร็จแล้ว และบริษัทคาดว่าศูนย์กระจายสินค้านี้จะจัดส่งสินค้าได้ครบทุกสาขาในปลายเดือนเม.ย. ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นสินค้าที่ผ่านศูนย์ฯน่าจะคิดเป็นประมาณ 50% ของยอดขาย และน่าจะค่อยๆเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 60-70% ส่วนวัสดุก่อสร้างประเภทโครงสร้างอย่างปูนซีเมนต์และเหล็ก ซัพพลายเออร์จะยังคงส่งสินค้าไปที่สาขาโดยตรงศูนย์กระจายสินค้าน่าจะช่วยหนุนกำไรได้ตั้งแต่ไตรมาส2/60 เป็นต้นไป

ประสิทธิภาพการขนส่งที่ปรับตัวดีขึ้นน่าจะหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวได้ในขณะที่จำนวนวันสินค้าคงคลังที่ลดลง (จาก 200 วัน เป็น 160 วัน) น่าจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่าย นอกจากนี้ศูนย์กระจายสินค้าน่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนของสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ทางอ้อม เนื่องจากจะช่วยลดการเสียโอกาสการขายจากสินค้าขาดสต็อก ซึ่งสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ส่วนใหญ่มาจากการนำเข้า จึงมีช่วงเวลาสั่งและจัดส่งค่อนข้างนาน นอกจากนี้การบริหารและจัดการสินค้าที่ดีขึ้นน่าช่วยลดขนาดของพื้นที่ร้านค้า และลดการลงุทนต่อสาขา

กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางบัญชี

GLOBAL จะเปลี่ยนแปลงนโยบายทางบัญชีจากการประเมินค่าสินทรัพย์เป็นคิดจากต้นทุนเหมือนอย่างหุ้นอื่นๆในกลุ่ม โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่งบบัญชีไตรมาส 1/60 เป็นต้นไป สินทรัพย์และทุนจะลดลงอย่างละประมาณ 4 พันล้านบาท ในขณะที่กำไรสุทธิจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 220 ล้านบาท เนื่องจากค่าเสื่อมราคาที่ลดลง อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิ ณ สิ้นปี 2560 น่าจะอยู่ที่ 0.35 เท่า แต่ยังถือว่าต่ำมาก กำไรปี 2560 จะปรับตัวขึ้นอีก 11% มาอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท แต่มูลค่าหุ้นไม่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงทางบัญชีที่ไม่ใช่เงินสด