MORNING CALL ACTION NOTES (24 ม.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (24 ม.ค.60)

Swing Trade

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อดักผลประกอบการปี 2559 โดยส่วนใหญ่เป็นแรงซื้อในกลุ่มพลังงานและปิโตรฯตามราคาน้ำมันที่รีบาวด์ขึ้น รวมถึงหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นข่าวเฉพาะตัว ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,570.79 จุด (+7.80 จุด) Vol. 4.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -263 ลบ. , TFEX Net -3,458 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลงจากความกังวลสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลง TPP และเตรียมเจรจาครั้งใหม่ต่อข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า)กับแคนาดาและเม็กซิโกเพื่อไม่ให้สหรัฐเสียเปรียบการทำการค้า

- ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงล่าสุด 53 US/Barrel หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 29 แท่น สู่ระดับ 551 แท่น

+/- ทิศทาง Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Sell เล็กน้อย 263 ลบ. แต่แนวโน้มค่าเงินบาทยังแข็งค่าที่ 35.2 BATH/USD.

+ คลังเผยจะหารือกับสศค.ในสัปดาห์นี้เพื่อเร่งสรุปมาตรการลดหย่อนภาษี 2 เท่า กระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน และจะเสนอครม.ภายในเดือนม.ค.60

** วันนี้ 24 ม.ค. 16.30 น.จับตาศาลฎีกาอังกฤษอ่านคำวินิจฉัยว่าด้วยอำนาจนายกฯสามารถใช้มาตรา 50 เพื่อเริ่มต้น Brexit โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาได้หรือไม่

** ตลท.เพิกถอนหุ้น TPC มีผล 30 ม.ค.,เทรดวันสุดท้าย 27 ม.ค.

** WHA ให้สิทธิผถห.จองซื้อหุ้น WHAUP ไม่เกิน 57.29 ล้านหุ้น สัดส่วน 250:1 ราคาเดียวกับขาย IPO

ตลาดหุ้นไทยถูกแรงกดดันจากความกังวลการกีดกันทางการค้าของนโยบายนายโดนัล ทรัปม์ รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่ผันผวนหลังพลิกเป็น Net Sell อีกครั้ง อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงหนุนจากการซื้อดักงบปี 2559 ที่กำลังทยอยประกาศเป็นบวกต่อทิศทางดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 - 1,580 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- กลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงและคาดว่างบ Q4/59 รวมถึงงบปี 59 จะมีกำไรเติบโตขึ้น

- STA TRUBB ราคายางพาราพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีล่าสุด 303 Yen/Kg

- IVL ราคาฝ้ายพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ล่าสุด 74.8 US/Tons

- THAI BA AAV รมว.คมนาคม เผยกพท.คาดออกใบรับรอง AOC ใหม่ได้ราวก.พ.-มี.ค.

- กลุ่มที่คาดว่ากำไรปี 2559 เติบโต PTT IRPC PTTGC TOP BANPU WICE SYNEX ANAN ORI FSMART BCH BIG SMT KCE BEAUTY BJC

หุ้นแนะนำพิเศษ

IVL  ราคาปิด 35.25 บาท  Consensus เฉลี่ย 38.23 บาท

• Consensus คาดผลประกอบการ 4Q59 อยู่ที่ 2.75-2.85 พันล้านบาทเติบโต 3.5%QoQ และเติบโต 480%YoY เนื่องจาก Spread MEG และ PTA ปรับตัวขึ้นจากไตรมาส 3 ราว 145% และ 2% ตามลำดับช่วยหนุนผลประกอบการ

• Consensus คาดกำไรปี 2017 อยู่ที่ 9.8-9.9 พันล้านบาทลดลง 11%YoY จากปี 59 เนื่องจากปี 59 มีกำไรจากการซื้อกิจการราว 7 พันล้านบาท

• อานิสงส์ราคาฝ้ายทำ High ในรอบ 2 ปี ล่าสุด 74.8 US/Tons

หุ้นมีข่าว

Analyst Meeting : KTB (ราคาปิด 18.90 ซื้อ ราคาเหมาะสม 21.60)

• เป้าปี 60 สินเชื่อเติบโต 4-6% เน้นสินเชื่อโครงการภาครัฐ และ SME โดยจะรักษา %NPL ที่ระดับเดิม (แม้ NPL มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อแต่ผู้บริหารมองว่าสินเชื่อปีนี้น่าจะพลิกเติบโตจากที่หดตัว 6% ในปี 59)

• ผู้บริหารไม่มี guidance เกี่ยวกับ NIM ซึ่งฝ่ายวิจัยประเมินว่า NIMน่าจะลดลงจาก 2.94% ในปี 59 เนื่องจากเงินฝากพิเศษด/บสูงที่จะครบกำหนดในปีนี้มีไม่มาก และสินเชื่อภาครัฐมี yield ค่อนข้างต่ำ ส่วนสินเชื่อ SME ที่มี yield สูงกว่าสินเชื่อกลุ่มอื่นแต่ธนาคารยังเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง

• แม้คาดกำไรปี 60 เติบโตไม่มากจากปี 59 แต่จุดเด่นของ KTB อยู่ที่ yield สูงสุดในกลุ่มแบงก์ใหญ่ จากที่คาด EPS ปี 59 ราวหุ้นละ 2.31 บาท คาดเงินปันผลปี 59 หุ้นละ 0.85 บาท yield 4.5%

- PTTGC (ราคาปิด 67.50 ราคาเหมาะสม 71) เตรียมดัน "บริษัทโกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC" เข้าตลาดไตรมาส 2/60 นี้ หวังโกยเงินระดมทุนลุย "โครงการไบโอคอมเพล็กซ์" จากอ้อย และ "โครงการโรงผลิตไอโอดีเซล" แห่งที่ 2 ทั้งนี้บริษัทยังไม่ตัดสินใจขาย VNT (ทันหุ้น)

  ความเห็น การนำบริษัทลูก GGC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะช่วยโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทลูกในการระดมทุน อีกทั้งยังเป็นการปลดล็อกมูลค่าหุ้นของ PTTGC เพิ่มเติม

- SC (ราคาปิด 3.60 ซื้อ ราคาเหมาะสม 4 บาท) ตั้งเป้ารายได้ 3 ปี ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นลบ. ลุยพัฒนาโครงการต่อเนื่องพร้อมกางแผนธุรกิจปีนี้รุกเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่า 2.7 หมื่นลบ. ปั๊มยอดขายโต 38% ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้คาดอยู่ที่ 1.48 หมื่นล้านบาท ทุ่มงบกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อซื้อที่ดิน-ก่อสร้าง (ทันหุ้น)

  ความเห็น ฝ่ายวิจัยประมาณการรายได้ปี 60 ราว 1.24 หมื่นล้านบาทและคาดกำไรปี 59 ราว 2,056 ลบ. +8% และคาดกำไรปี 60 ราว 1,936 ลบ. ซึ่งหดตัว 6% เนื่องจากมี backlog ค่อนข้างต่ำเพียง 926 ลบ.ณ ปลาย 3Q59 ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยจะเข้าร่วม Analyst Meeting แถลงแผนการดำเนินงานปี 60 ในวันนี้ โดยมีแนวโน้มทบทวนประมาณการหากพบว่าสัญญาณการรับรู้รายได้มีแนวโน้มดีขึ้น

- DCC แจ้งกำไรปี 59 เท่ากับ 1,422 ลบ. +4% พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.036 บาท กำหนด XD 3 มี.ค. วันจ่าย 12 พ.ค.

- อดีตซีอีโอ PTT-PTTEP ยันไม่มีเอี่ยวปมสินบนโรลส์-รอยซ์ โดยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่มีทั้งบุคคลภายในและภายนอกเข้าร่วม

- รมว.คมนาคม เผยกพท.คาดออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (AOC Re-certification) ใหม่ให้ THAI-BA-AAV ได้ราวก.พ.-มี.ค.

- NOBLE แย้มแผนปีนี้เปิดตัวมากกว่า 2 โครงการใหม่ยังเน้นระดับบน-รุกขยายฐานลูกค้าต่างชาติ ส่วนโครงการโนเบิลเพลินจิตมีจำนวน 1,444 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60% เริ่มทยอยโอนเมื่อปลายปี 59 เหลืออีก 40% จะทยอยขายให้หมด ขณะนี้ราคาขายต่อตรม.ปรับขึ้นเป็น 270,000 บาทต่อตรม. จาก 140,000 บาทต่อตรม. เมื่อ 7 ปีก่อนตอนเปิดตัว ทำให้มูลค่าโครงการขยับขึ้นเป็น 1.8 หมื่นลบ.จาก 1.4 หมื่นลบ. ตอนเริ่มต้น

- UWC ได้งานเสาส่ง กฟผ.จำนวน 2 โครงการราว 1.3 หมื่นตัน รวมมูลค่ากว่า 500 ลบ

- "PPM" เซ็นเอ็มโอยูกับ บริษัท "Pacific Star Energy" ผลิตแผงโซลาร์ 100 เมกะวัตต์ ในประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นผู้รับเหมาแบบครบวงจร พร้อมเข้าลงทุน 25% ต่อยอดธุรกิจด้านพลังงาน หนุนการเติบโตในระยะยาว (ทันหุ้น)



ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -27.40 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,799.85 จุด ลดลง 27.40 จุด หรือ -0.14% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,552.94 จุด ลดลง 2.39 จุด หรือ -0.04% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,265.20 จุด ลดลง 6.11 จุด หรือ -0.27% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่สะท้อนถึงการกีดกันทางการค้า โดยล่าสุดทรัมป์ได้ได้ลงนามถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงการค้าเสรีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นพลังงานปรับตัวลงด้วย

ตลาดน้ำมัน NYMEX +1.05 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด และยังได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตเป็นอย่างดี