'อัศวิน' กำชับจัดเก็บภาษีปี 60 ให้เข้าเป้า 7.6 หมื่นล้าน

'อัศวิน' กำชับจัดเก็บภาษีปี 60 ให้เข้าเป้า 7.6 หมื่นล้าน

ผู้ว่าฯ กทม. ประชุมฝ่ายรายได้กทม. กำชับจัดเก็บภาษีปี 60 ให้เข้าเป้า 7.6 หมื่นล้านบาท

ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานในการประชุมระหว่างผู้บริหารกทม.กับหัวหน้าฝ่ายรายได้(แนวดิ่ง) ครั้งที่ 1/2560 โดยพล.ต.อ.อัศวิน กล่าวในที่ประชุม ว่า อยากให้การจัดเก็บภาษีครบถ้วนทุกคน ถึงแม้จะมีปัญหาก็ต้องมีไว้แก้ไข ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม ต้องทำให้ถูกต้องว่าสิ่งใดต้องเก็บภาษี ก็ต้องเก็บให้ครบ ถ้าทำได้ถือว่าจบหน้าที่แล้ว อยากให้ช่วยกันเพราะรายได้ของกทม.ก็มาจากภาษี ถึงจะมีเงินอุดหนุนจากภาครัฐแต่ก็ไม่มาก รายได้ที่จัดเก็บก็ต้องดูแลข้าราชการ ที่กษียณอายุราชการไปแล้วปีละหลายพันล้านบาท ดังนั้นขอให้ทุกคนทำอย่างเต็มที่  

นางวิไลวรรณ พรหมลักขโณ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า เราต้องทำงานให้ชัดเจน เพื่อประชาชนได้รับความพอใจเรื่องการเก็บภาษี กทม.ต้องทำงานเต็มที่ ซึ่งขณะนี้จะถึงช่วงเวลายื่นภาษีแล้ว ก็ขอให้ทุกคนเต็มที่เพราะงานจะหนักขึ้น ขอให้ทุกเขตอำนวยความสะดวก ให้ความคล่องตัวให้ประชาชนประทับใจตั้งแต่เดือนก.พ.เป็นต้นไป โดยในช่วงทำงานปกติก็ขอให้จัดเก็บให้ครบถ้วน เพราะเงินใช้ภายในกทม.ก็จะไม่พออยู่แล้ว โครงการใหญ่ๆ ผู้ว่าฯกทม.บอกแล้วว่าจะไม่มี ฝ่ายหาเงินก็ต้องหาเงินให้เต็มที่ ถึงแม้กทม.จัดเก็บ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนหน่วยงานภายนอกจัดเก็บให้กทม.อีก 5 หมื่นล้าน จึงขอให้นางรัชนีวรรณ อัศวธิตานนท์ รองปลัดกทม. คุยกับผู้อำนวยการเขตให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้อำนวยการเขต เห็นความสำคัญของฝ่ายรายได้ของสำนักงานเขต อย่างไรก็ตาม จากนี้สมาชิกสภากทม.จะลงไปติดตามการใช้เงินและการจัดเก็บรายได้ จึงขอให้ฝ่ายรายได้ของสำนักงานเขต เตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงต่อสมาชิกสภากทม. และเตรียมชี้แจงต่อการพิจารณาประมาณปี 2561 ต่อไป   

ด้านนายภัทรุตน์ กล่าวว่า งานของฝ่ายรายได้เป็นภาระสำคัญ ซึ่งผู้บริหารติดตามสิ่งที่ดำเนินการ การประชุมวันนี้เพื่อรับทราบเป้าหมายในการจัดเก็บรายได้ ซึ่งฝ่ายบริหารพร้อมสนับสนุนเต็มที่   

ขณะที่นางรัชนีวรรณ กล่าวว่า กทม.ได้ตั้งตัวเลขงบประมาณรายจ่ายในปี 2560 จำนวน 7.6 หมื่นล้าน จึงขอให้ทุกเขตเดินสำรวจโรงเรือนรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2559 กว่าหมื่นราย และหวังว่าการจัดเก็บในปี 2560 จัดเก็บรายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้อย่างเต็มที่ 

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสถิติการจัดเก็บภาษี 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน 2.ภาษีบำรุงท้องที่ และ3.ภาษีป้าย ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2558 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2559 แบ่งเป็น ภาษีโรงเรือนและที่ดิน กำหนดเป้าหมาย 13,848 ล้านบาท จัดเก็บได้ 12,294 ล้านบาท ตำ่กว่าเป้าหมาย 1,554 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 88.78 ภาษีบำรุงท้องที่ กำหนดเป้าหมาย 150.02 ล้านบาท จัดเก็บ 140.06 ล้านบาททต่ำกว่าเป้าหมาย 9.96 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 93.36 และภาษีป้ายกำหนดเป้าหมาย 1,001.90 ล้านบาท จัดเก็บได้ 855.99 ล้านบาท ตำ่กว่าเป้าหมาย 144.91 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 84.44   

รายงายข่าวระบุว่า ส่วนผลการจัดเก็บภาษีทั้ง 3 ประเภท ในปีงบประมาณ 2559 มีสำนักงานเขตที่สามารถจัดเก็บได้เกินเปาหมาย 100 เปอร์เซ็นต์ 5 สำนักงานเขต ประกอบด้วย 1.คันนายาว 2.ดินแดง 3.ดอนเมือง 4.ทวีวัฒนา และ5.ป้อมปราบศัตรูพ่าย ขณะที่สำนักงานเขตที่จัดเก็บได้เกิน 90 เปอร์เซ็นต์ 10 สำนักงานเขต ประกอบด้วย 1.บางซื่อ 2.ภาษีเจริญ 3.คลองสามวา 4.พระโขนง 5.สายไหม 6.ประเวศ 7.บางนา 8.บางกะปิ 9.หนองแขม และ10.วัฒนา ส่วนสำนักงานงานเขตจัดเก็บได้เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ 31 สำนักงานเขต และสำนักงานเขตที่จัดเก็บต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์มี 4 สำนักงานเขต ซึ่งในที่ประชุมได้เร่งรัดให้จัดเก็บรายได้ในปี 2560 ให้ได้ตามเป้าหมาย  

“กำหนดเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ประจำปีงบประมาณ 2560 กทม.ได้กำหนดไว้ที่ 7.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ที่กทม.จัดเก็บเอง ประกอบด้วย ภาษีบำรุงท้องที่ 158 ล้านบาท ภาษีโรงเรือนและที่ดิน 14,300 ล้านบาท ภาษีป้าย 1,060 ล้านบาท อากรฆ่าสัตว์ 2 ล้านบาท ภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร สำหรับน้ำมัน 300 ล้านบาท รายได้ที่ไม่ใช่ภาษีอากรรวม (ค่าธรรมเนียม รายได้จากทรัพย์สิน รายได้จากสาธารณูปโภค รายได้เบ็ดเตล็ด ทั้งหมดเป็นการจัดเก็บรายได้ของกทม.จำนวน 20,000 ล้านบาท ส่วนรายได้ที่ส่วนราชการอื่นจัดเก็บให้ 56,000 ล้านบาท รวม 7.6 หมื่นล้านบาท” รายงานข่าวระบุ