'องอาจ'แนะ 'ประยุทธ์' ทำปรองดองให้เป็นวาระแห่งชาติ

'องอาจ'แนะ 'ประยุทธ์' ทำปรองดองให้เป็นวาระแห่งชาติ

รองหัวหน้าปชป. เสนอ “ประยุทธ์” ทำปรองดองให้เป็นวาระแห่งชาติ แนะ ปยป. นำงานเก่ามาปัดฝุ่น ไม่ต้องนับหนึ่งใหม่

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกและหัวหน้า คสช. ระบุว่าการปรองดองไม่ใช่เดิมพันของรัฐบาล แต่เป็นเดิมพันของคนไทยทุกคนว่า ส่วนตัวว่าเรื่องนี้เป็นเดิมพันของประเทศชาติบ้านเมือง ดังนั้นเพื่อให้การปรองดองเดินหน้าเปลี่ยนแปลงประเทศในทิศทางที่ดีขึ้น จึงขอเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ ทำเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ โดยปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เกี่ยวพันทุกภาคส่วนทั้งนักการเมือง กลุ่มการเมือง ภาคประชาชน ทหาร ตำรวจ นักวิชาการ นักธุรกิจและประชาชน จึงต้องระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมาทำให้เป็นจริง ส่วนการที่บางฝ่ายเสนอเรื่องเอ็มโอยูและนิรโทษกรรมในขณะที่กรรมการปรองดองยังไม่เริ่มทำงานเป็นการสร้างความสับสนเพราะทั้งสองเรื่องดังกล่าวเป็นวิธีการปรองดองรูปแบบหนึ่งแต่ว่าไม่ใช่หลักการ โดยเฉพาะหากข้อเสนอนั้นมาจากแม่น้ำห้าสาย ก็จะทำให้เกิดข้อสงสัยตั้งแต่ต้นว่ามีธงจากคสช.หรือไม่ จึงควรเปิดโอกาสให้กรรมการได้เริ่มต้นทำงานเพื่อกำหนดหลักการแนวทางและมีข้อสรุปในการดำเนินการก่อนค่อยมาพิจารณาว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่ ซี่งจะทำให้เกิดความไว้วางใจต่อกันมากขึ้น 

นายองอาจ กล่าวอีกว่า ตนขอเสนอให้คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฎิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) ไปศึกษาผลการศึกษาคณะกรรมการที่เคยทำงานด้านนี้ 7 คณะคือ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ชุดที่สองคือผลการศึกษาของคณะกรรมการศึกษาแนวทางการปรองดองชุดที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน ชุดที่สามคือผลการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้า ชุดที่สี่คือผลการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการปรองดองและการปฏิรูปซึ่งมีกระทรวงกลาโหมรับผิดชอบ ตั้งขึ้นมาตอนคสช.เข้ามาบริหารประเทศ ชุดที่ห้าผลงานของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปที่จัดตั้งโดยกอรมน. ชุดที่ 6 คือรายงานเรื่องความปรองดองของสนช. และชุดที่ 7 ข้อเสนอของกรรมาธิการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองเรื่องการแก้ปัญหาความขัดแย้งและการสร้างความปรองดอง ดีกว่าที่ ปยป.จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่เพราะจะทำให้เสียโอกาส โดยส่วนตัวเชื่อว่าทุกภาคส่วนอยากเห็นความปรองดองในบ้านเมือง ดังนั้นการดำเนินการของ ปยป.จะได้รับความร่วมมือ อยู่ที่คณะกรรมการชุดนี้จะทำให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจและเชื่อใจได้อย่างไรว่าทำเพื่อส่วนรวมไม่ใช่ประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง หากทุกฝ่ายมั่นใจงานก็จะเดินหน้าไปได้ด้วยดี