กรุงไทยคุมเข้มขายหุ้นกู้เน้นเปิดเผยข้อมูล

กรุงไทยคุมเข้มขายหุ้นกู้เน้นเปิดเผยข้อมูล

“กรุงไทย” เข้มขายหุ้นกู้ เน้นเปิดเผยข้อมูล ยอมรับช่วยเสนอขายหุ้นกู้ “ไอเฟค” ลั่นยังไม่ผิดนัดชำระ เหตุครบดีลพ.ย.นี้ สั่งติดตามใกล้ชิด

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า นโยบายของธนาคารในฐานะเป็น ผู้จัดการจำหน่ายหุ้นกู้ มีความระมัดระวังมาโดยตลอด ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งมุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูล และการวิเคราะห์คัดเลือกตราสารที่นำมาเสนอขายในเชิงลึก ทั้งมีและไม่มีเรตติ้ง หรืออย่างน้อยต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งการเสนอขายให้กับลงทุนรายย่อย จะต้องถูกกลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้ลงทุนที่ต้องมีความเข้าใจความเสี่ยงเป็นสำคัญและจะขายให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่ (AI) ที่เป็นลูกค้าเดิมของธนาคารอยู่แล้ว

ช่วงที่ผ่านมา ธนาคารได้เสนอขายหุ้นกู้ ไม่มีเรตติ้งทั้งบริษัทแม่และลูก ในสัดส่วนที่น้อยมาก และปัจจุบันหุ้นกู้ตัวอื่นๆ ยังดี มีคุณภาพ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว รวมถึงหุ้นกู้ บริษัท บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ที่ธนาคารเป็นผู้จัดการจำหน่าย ยังไม่ผิดนัดชำระหนี้ โดยธนาคารยังได้ติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของ IFEC อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนอย่างครบถ้วน ซึ่งผู้ลงทุนมีความเข้าใจดี

สำหรับหุ้นกู้ IFEC ที่ขายไปให้กับลูกค้า AI ของธนาคาร มีวงเงินประมาณ 1 ,000 ล้านบาท อายุ 2 ปี จะครบกำหนดไถ่ถอน เดือนพ.ย.ปี60 ซึ่งยังไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ และมีเงื่อนไขในการดูแลผู้ลงทุนตามข้อกำหนดสิทธิ หากมีเหตุผิดนัดเกิดขึ้น เนื่องจากมีการผิดตามสัญญาอื่นๆ (cross-default) หรือมีสิทธิเรียกให้หนี้ถึงกำหนดชำระโดยพลันตามกฎหมาย ถือว่าหนี้ทั้งจำนวนในสัญญานั้นๆ ถึงกำหนดชำระโดยพลันด้วย

นายวิศิษฐ์ ชื่นรัตนกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส ฝ่ายตราสารหนี้ บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัท ไม่มีการลงทุนในตั๋วบีอี ที่ไม่มีเรตติ้งและเรื่องนี้บริษัทให้ความระมัดระวังการลงทุนค่อนข้างมากในการพิจารณาลงทุนทุกครั้งไม่เฉพาะแต่ตราสารที่ไม่มีเรตติ้งเท่านั้น แต่ ในทุกๆตราสารต้องผ่านการพิจารณาในระดับคณะกรรมการ เพราะเราทราบดีว่าหากเกิดปัญหาจะกระทบทั้งเงินของผู้ลงทุน และความเชื่อมั่นของบริษัทมาก โดยเฉพาะเรื่อง default ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

แหล่งข่าวจากสถาบันการเงิน กล่าวว่า ยังต้องติดตามสถานการณ์ตั๋วแลกเงิน(บี/อี) และหุ้นกู้ที่ไม่มีเรทติ้งอย่างต่อเนื่อง เพราะอาจเกิดปัญหาผิดนัดชำระหนี้(Default) ตามมาได้อีก ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ไม่ต่างจากที่เคยเกิดในอิตาลีหรือกรีซ เพียงแต่ต้องเข้าใจสถานการณ์ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดเฉพาะบางราย ไม่ได้เกิดกับทุกบริษัท

“สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกินความคาดหมาย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาวะดอกเบี้ยต่ำนาน และนักลงทุนแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น เป็นเรื่องปกติในภาวะสภาพคล่องในตลาดท่วมท้น ด้านคุณภาพอาจเผลอไปบ้าง แม้บางธุรกิจไม่ได้มีปัญหาด้านการเงิน แต่มองว่า ธุรกิจนั้นต้องระมัดระวัง เตรียมสภาพคล่องไว้ให้เพียงพอ"