‘กอบกาญจน์’ชงครม.ต่ออายุลดค่าวีซ่า

‘กอบกาญจน์’ชงครม.ต่ออายุลดค่าวีซ่า

กระทรวงท่องเที่ยวชง ครม.เสนอต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมวีซ่าอีก 3 เดือน ขีดเส้นคณะอนุกรรมการ ท.ท.ช.ศึกษารูปแบบมาตรการวีซ่าระยะยาว

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราวีซ่า ณ สถานทูต สถานกงสุลไทย 1,000 บาท และปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวให้แก่นักท่องเที่ยว จำนวน 19 ประเทศ มีระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ พ.ย.2559 - ก.พ.2560 นั้น เริ่มมีผลทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

โดยเฉพาะตลาดจีนที่อยู่ระหว่างการปรับตัวจากมาตรการกวาดล้างทัวร์ผิดกฎหมาย ที่มีรายงานจากสำนักงาน ททท.ทั้ง 5 แห่ง ว่าชาวจีนทยอยขอวีซ่าผ่านสถานฑูตและสถานกงสุลต่อวันเพิ่มขึ้น และบางวันมียอดการขอวีซ่าเติบโตกว่าเท่าตัว ดังนั้น จึงเตรียมเสนอครม.ต่ออายุมาตรการนี้ไปอีกในระยะสั้น ขั้นต่ำ 3 เดือน เพื่อเป็นแรงกระตุ้นความต้องการต่อเนื่องครอบคลุมไปถึงการกระตุ้นในช่วงโลว์ซีซันด้วย

นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ซึ่งมีพลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการใช้วีซ่าเพื่ออำนวยความสะดวกและก่อให้เกิดความต้องการเดินทางมาไทยมากขึ้น เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอด้านวีซ่าที่ไทยจะบังคับใช้ระยะยาวทดแทนมาตรการระยะะสั้นที่มีผลอยู่ในปัจจุบัน และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเดินทางทั่วโลก ที่เริ่มปรับสู่การอำนวยความสะดวกให้ประชากรแต่ละประเทศสามารถเคลื่อนย้ายเข้า-ออกระหว่างประเทศได้สะดวกง่ายดายขึ้น โดยที่สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (ดับเบิลยูทีซีซี) กำลังยกระดับประเด็นดังกล่าวให้สมาชิกทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าว เนื่องจากสะท้อนถึงสิทธิเสรีภาพในการเดินทางที่นักท่องเที่ยวพึงได้รับด้วย

"ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าการขอยืดอายุมาตรการวีซ่าในระยะสั้นออกไปอีก จะเหมาะสมหรือไม่อย่างไร แต่ขณะเดียวกัน ท.ท.ช.ก็อยู่ระหว่างทำข้อเสนอระยะยาวที่จะครอบคลุมทั้งการวางนโยบายวีซ่าให้เหมาะสม ทำให้เกิดความสะดวกในการเดินทาง โดยใช้การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือยังต้องคำนึงถึงความมั่นคงเป็นหลักสำหรับการคัดกรองชาวต่างชาติมาไทย"

นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ต้องการให้ผลการศึกษาสำเร็จเป็นรูปธรรมเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.ภายในปีนี้ ซึ่งจะได้สอดคล้องกับที่กระทรวงการต่างประเทศกำลังจะเปิดระบบอี-วีซ่าพร้อมใช้งานในปี 2561 พอดี โดยรูปแบบที่เป็นไปได้ในการใช้มาตรการวีซ่าของไทยนั้น คณะอนุกรรมการฯ จะศึกษจากหลายประเทศเพื่อหาข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบ เช่น พิจารณาระบบของสหรัฐอเมริกาที่มีขั้นตอนในการอนุมัติมากกว่าประเทศอื่นๆ แต่ข้อดีคือเป็นการคัดกรองถี่ถ้วนครั้งเดียวแต่สามารถให้ระยะยาวสูงสุดถึง 10 ปีได้ ซึ่งสามารถสร้างแรงจูงใจให้คนเดินทางซ้ำ เพราะไม่ต้องเสียเวลากับการขอวีซ่าใหม่รายครั้งเมื่อต้องการเดินทางเข้าประเทศ

ทั้งนี้ จากสถิติการเดินทางตั้งแต่วันที่ 1-20 ม.ค.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยแล้ว 1.8 ล้านคน เติบโตขึ้นราว 6% ขณะที่ตลาดจีนลดลงราว 13% ซึ่งเป็นอัตราติดลบที่ลดน้อยลงเมื่อเทียบกับจุดต่ำสุดในเดือน พ.ย.ในอัตราลดลงกว่า 30% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไทยผ่านจุดต่ำสุดของตลาดจีนมาแล้ว และกำลังปรับฐานในขาขึ้น โดยมีผลจากมาตรการวีซ่าที่เริ่มเห็นได้ชัดเจน