ชี้'ไซซะนะ'นักค้ายาอาเซียน ล่าแก๊งอีก5-ลุยยึดทรัพย์100ล้าน

ชี้'ไซซะนะ'นักค้ายาอาเซียน ล่าแก๊งอีก5-ลุยยึดทรัพย์100ล้าน

ปฏิบัติการ "ชัยยะสยบไพรี" จับ "ไซซะนะ" นักค้ายาใหญ่ระดับอาเซียน ล่าแก๊งอีก5 หลังสืบนาน5ปี ยึดทรัพย์ที่ดิน14แปลง รถยนต์-จยย.27คันรวม100ล้าน

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) , นายศิรินทร์ยาสิทธิชัย เลขาธิการป.ป.ส. ร่วมกันแถลงผลการสนธิกำลังปฏิบัติการตามแผน “ชัยยะสยบไพรี60/1 ” ด้วยการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับและตรวจยึดทรัพย์สินเครือข่ายของนายไซซะนะ แก้วพิมพา หัวหน้าผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถูกจับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ วานนี้ (19ม.ค.) หลังพบว่ากลุ่มดังกล่าวมีพฤติการณ์ร่วมกันลำเลียงยาเสพติดส่งไปจำหน่ายให้กับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน

และเมื่อปี 2559 ทางการไทยสามารถจับกุมดำเนินคดีเครือข่ายดังกล่าวได้ถึง 4 คดี ได้ขอกลางยาบ้า 5 ล้านเม็ด ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนขยายผลจนออกหมายจับเครือข่าย 9 คน และหมายค้นเพื่อตรวจยึดทรัพย์สินอีก 36 แห่ง

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีความพยายามแกะรอยเพื่อหาความเชื่อมโยงของเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทราบถึงตัวผู้ร่วมขบวนการและนำไปสู่การออกหมายจับซึ่งในวันนี้ ( 20ม.ค.) ปส. พร้อมด้วย ป.ป.ส. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงปฏิบัติการเข้าค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในหลายพื้นที่ ซึ่งขณะนี้จากผู้ต้องหา9คน สามารถจับกุมได้แล้ว 4 คน ประกอบด้วย 1.นายไซซะนะ แก้วพิมพา อายุ 42 ปี สัญญาติลาว สามารถจับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมของกลางเป็นเอกสารและเงินดที่เป็นธนบัตรไทย 350,000 บาท ธนบัตรสหรัฐอเมริกา 35,000 ดอลล่าร์ 2.นายชุมพร พนมไพรอานุ 42 ปี จับกุมได้ที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี 3.นายปุ่น ชรินทร์ อายุ 53 ปี จับกุมได้ที่อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี 4.น.ส.อ้อยทิพย์ ปัญญารักษ์ อายุ28ปี จับกุมได้ที่จ.ชลบุรี

เบื้องต้น ยึดทรัพย์สินได้ 74 รายการประกอบด้วยบ้านพัก2หลัง โฉนดที่ดิน 14 แปลง รถยนต์หรู 14 คัน รถจักรยานยนต์ 11 คันรถเพื่อการเกษตร 2 คัน บัญชีเงินฝาก29รายการ ทองรูปพรรณและเงินสดทั้งไทยและดอลล่าร์สหรัฐกว่า 1.5 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า ปฏิบัติการจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางการลาวซึ่งให้ความสนใจในการติดตามเครือข่ายนี้ที่ถือเป็นเครือข่ายใหญ่ถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง มีการขยายผลพบว่ามีกลุ่มที่เกี่ยวข้องอีก 3 กลุ่มซึ่งในวันนี้ทางการลาวก็จะเข้าปฏิบัติการตรวจค้นอีกหลายจุด เพื่อติดตามทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิดเนื่องจากพบว่าทรัพย์สินที่ได้จากขบวนการดังกล่าวถูกเก็บไว้ที่แขวงคำม่วน ประเทศลาว

ด้านพล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า เครือข่ายดังกล่าวมีพัฒนาที่เหนือว่าเครือข่ายของนายเล่าต๋า แสนลี่ เนื่องจากมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในอดีตเล่าต๋าใช้ม้าใช้วัวขนยาเสพติดแต่เครือข่ายนี้มีศักยภาพใช้การเดินทางที่สามารถขนยาเสพติดได้ครั้งละมากๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแกะรอยหาความเชื่อมโยงมานานกว่า 5 ปี เพื่อจับกุมตัวการกระทั่งสามารถจับกุมนายไซซะนะได้คดีนี้ถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างประเทศเนื่องจากลาวก็ได้รับผลกระทบจากเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ที่กระทำความผิดข้ามประเทศหลังจากนี้จะพยายามจับกุมและดำเนินคดีโดยเฉพาะการใช้มาตรการยึดทรัพย์ให้ได้มากที่สุดต้องทำให้เครือข่ายยาเสพติดเหล่านี้จนยิ่งกว่าขอทานที่ผ่านมาให้เวลามา 5 - 6 ปี คอยเช็คการเดินทางพบว่ามีการเดินทางเข้าออกไทยหลายครั้งจนได้จังหวะจับกุมสำเร็จ

พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่านายไซซะนะคือตัวการใหญ่ของเครือข่ายมีการประกอบธุรกิจหลายอย่างอยู่ที่ประเทศลาวทั้งโรงเลื่อยโรงแรมรถหรูซุปเปอร์คาร์และคาดว่าอาจมีการทำเหมืองทองด้วยทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ได้จากการค้ายาเสพติดอยู่ที่ประเทศลาวเวลาที่มาพักในประเทศไทยมักไปอยู่ที่โรงแรมหรูการเดินทางมาไทยครั้งนี้ คาดว่าเป็นการพบปะกับเครือข่ายลูกค้าคล้ายกับที่เคยมีการจับปาร์ตี้เครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จ.นครราชสีมา ก่อนหน้านี้โดยต้องยอมรับว่าปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติดเหล่านี้มีความพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสินค้า เช่น ยาบ้าจากเดิมที่มีกลิ่นเหม็น แต่ขณะนี้มีการทำเป็นกลิ่นมิ้นต์ กลิ่นวะนิลาให้เลือก

ทั้งนี้คาดว่าเครือข่ายดังกล่าวยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกนับร้อยคน และน่าจะเกี่ยวข้องกับมาเฟียข้ามชาติที่เข้ามาดำเนินการในไทยอีกหลายกลุ่ม ที่ผ่านมาปล่อยให้เครือข่ายนี้เข้ามาค้ายาเสพติดสูญเสียทรัพยากรคนทั้งดี และไม่ดีไปจำนวนมากจากการสอบปากคำนายไซซะนะเบื้องต้นให้ความร่วมมือดีให้การเป็นประโยชน์สามารถสื่อสารภาษาไทยได้

ขณะที่นายศิรินทร์ยา กล่าวว่าเครือข่ายมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจับกุมได้ครั้งละ 1 - 2 ล้านเม็ด ก่อนหน้านี้จับได้เพียงคนรับขนต้องนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และประสานข้อมูลกับทางการลาวอย่างใกล้ชิดเพื่อหาความเชื่อมโยง เพราะคนรับขนเองก็ไม่รู้ว่าคนจ้างเป็นใครต้องแกะรอยหาความเชื่อมโยงจากโทรศัพท์มือถือ และเส้นทางการเงินจนนำไปสู่การเอาผิดฐานสมคบกับผู้เกี่ยวข้องตามหมายจับทั้ง9คนโดยจะมีการประสานให้ปปง.เข้าไปติดตามทรัพย์สิน เพื่อดำเนินการอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้คงไม่สามารถชี้แจงที่มาทรัพย์สินได้แน่นอน อย่างไรก็ตามล่าสุดได้รับการประสานงานจากประเทศสิงคโปร์เกี่ยวกับการดำเนินการกับเครือข่ายของนายไซซะนะ เนื่องจากเครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติดจากลาวเข้ามายังประเทศไทยก่อนส่งไปยังภาคใต้ และพบว่ามีการส่งยาเสพติดต่อไปยังประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียด้วย

สำหรับผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 5 คนที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมประกอบด้วย1.นายรัชศักดิ์ชำนาญกุล ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบฯ 2.นายวันชัย ภูพันรัตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบฯ 3.นางจิราภรณ์ วงแสนคำ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบฯ 4.นายไกรราช สุภาพ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท1ในครอบครองฯ และ5.นายจันสี ทิดสิม สัญชาติลาว ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำผิด