ค้าปลีกโหม‘การตลาดเทศกาล’โกยยอดไตรมาสแรก

โดยเฉพาะไตรมาสแรกนี้มีหลายเทศกาลที่สามารถสร้าง “โอกาสการขาย” ขณะที่ผู้ประกอบการเตรียมทุ่มงบประมาณอัดแคมเปญโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

ชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์  จำกัด เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ กล่าวว่า กำลังซื้อผู้บริโภคส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เป็นสัญญาณบวกสำหรับผู้ประกอบการ โดยสยามพิวรรธน์ เตรียมงบกว่า 1,200 ล้านบาท ทำการตลาดเชิงรุกในปีนี้

“ไตรมาสแรก และไตรมาสสุดท้าย เป็นช่วงการขายที่สำคัญ มีเทศกาลให้เกาะกระแส สร้างสีสัน ทำการตลาด”

ประเดิมด้วยแคมเปญใหญ่ของไตรมาสแรก “เทศกาลตรุษจีน" ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีน และเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวจีนที่นิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เป็นโอกาสทองของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและค้าปลีก และเป็นช่วงสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังคาดการณ์ว่าตลอดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 34 ล้านคน โดย ททท. ตั้งเป้ารายได้รวมจากการท่องเที่ยว 1.78 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 8.5%

  สำหรับแคมเปญตรุษจีน “สยามแมกนิฟิเซนท์ ไชนีสนิวเยียร์ 2017” ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ร่วมกับแบรนด์ต่างๆ จัดโปรโมชั่นลดราคาสูงสุด 70% ระหว่างวันที่ 26 ม.ค.-5 ก.พ. ลูกค้าที่ช้อปตามเงื่อนไข รับรางวัลพิเศษที่แตกต่างกันตามความชื่นชอบของกลุ่มลูกค้าของแต่ละศูนย์

นอกจากนี้มีกิจกรรมไฮไลท์ระหว่างวันที่ 27 -29 ม.ค. พบกับขบวนพาเหรดสิงโตมงคลมอบโชคกว่า 10,000 รางวัล ให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“แม่เหล็กที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ มั่นใจว่าจะดึงดูดนักช้อปให้เข้ามาจับจ่ายในย่านสยาม คือ มหกรรมอีเวนท์ ที่แตกต่างตามกิจกรรมที่ตรงกับความชื่นชอบและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละศูนย์”

สยามพารากอน จัดการแสดงดนตรีบรรเลงบทเพลงจีนยอดนิยม โดยวงออร์เคสตร้า BSO ร่วมด้วยวงดนตรีไทยร่วมสมัย “กอไผ่” และปรมาจารย์กู่เจิง และเอ้อหู สยามเซ็นเตอร์ จัดนิทรรศการ “12 Lucky Shades 2017” อัพเดทสีมงคล 12 เฉดสี 12 ราศี โดยมีสไตล์ลิสต์มาช่วยแนะนำการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ที่ตรงกับเฉดสีมงคล สำหรับ สยามดิสคัฟเวอรี่ มีกลุ่มคนที่รักการดีไอวายและต้องการสิ่งของแบบเพอร์เซอนัลไลซ์ จึงจัดกิจกรรมชวนผู้สนใจร่วมเลือกถ้วยชามนำมาสกรีนลายไก่มงคล และอักษรมงคล เป็นสินค้าลิมิเต็ดชิ้นเดียวในโลก

พร้อมกันนี้ได้มีแคมเปญรองรับ “นักท่องเที่ยว” โดยเฉพาะเมื่อนักท่องเที่ยวมาลงทะเบียนรับบัตรทัวร์ริสต์การ์ด รับผลิตภัณฑ์จาก Thann และอั่งเปามงคล เมื่อช้อปครบ 5,000 บาท รับนารายาคอลเลคชั่นตรุษจีน ครบ 10,000 บาท รับผลิตภัณฑ์บอดี้แคร์จาก Thann และบัตรกำนัลจากสยามดิสคัฟเวอรี่ เป็นต้น

“จากการสำรวจความสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีน พบว่า กลุ่มที่เคยมาเที่ยวประเทศไทยจะต้องการหาสิ่งที่น่าสนใจแปลกใหม่ ซึ่งย่านสยามมีการเปิดตัวรูปโฉมใหม่ของร้านค้าต่างๆ รวม 3 ศูนย์กว่า 40 ร้านค้า”

สยามพารากอน เปิดตัวโซนใหม่ กูร์เมต์การ์เด้น รวบรวมภัตราคารร้านอาหารกว่า 30 ร้าน สยามเซ็นเตอร์ เปิดตัวร้าน LUSH แบรนด์ออร์แกนิคจากอังกฤษ เปิดสาขาแรกในไทย และเป็นหนึ่งในสาขาที่ใหญ่สุดในโลก สำหรับสยามดิสคัฟเวอรี่ มีร้านอาหารชื่อดังของเซเลบริตี้เชฟระดับโลก เจมี่ส์ อิตาเลี่ยน สยามดิสคัฟเวอรี่

คาดว่าจะดึงดูดนักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนเข้ามาจับจ่ายกว่าวันละ 2 แสนคน สร้างยอดขายให้ร้านค้าเพิ่มขึ้น 15-20% เทียบช่วงปกติ

ปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปลุกกระแสใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยนำกลยุทธ์การตลาดช่วงเทศกาล (Seasonal Marketing) และ การตลาดทางอารมณ์ (Emotional Marketing) มาใช้กับเทศกาลใหญ่ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการขายระยะสั้น และกระตุ้นอารมณ์ต้องการซื้อสินค้าของลูกค้าให้สอดคล้องกับเทศกาล

“จากมาตรการช้อปช่วยชาติ ส่งผลให้เม็ดเงินสะพัดต่อเนื่องในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. นับตั้งแต่เทศกาลปีใหม่ วันเด็ก ตรุษจีน ยาวไปถึงเทศกาลวาเลนไทน์ โดยพฤติกรรมนักช้อปชาวไทยในช่วงนี้ จะนิยมซื้อสินค้าใหม่เพื่อเสริมสิริมงคล โดยมีความเชื่อว่า การเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ เช่น ใส่เสื้อผ้าใหม่ ใช้ของใหม่ ในวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีนจะเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีในปีใหม่ เสริมความเฮงให้ชีวิตตลอดทั้งปี”

โดยสินค้า 3 กลุ่มที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ กลุ่มสินค้าแผนกโฮม, นาฬิกา และสินค้าแฟชั่น เช่น กระเป๋า เครื่องประดับ ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน จะเข้ามาเที่ยวไทยมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ และเป็นกลุ่มที่มาท่องเที่ยวเองเป็นหลัก (FIT) นิยมซื้อสินค้า 3 กลุ่ม คือ สินค้าแฟชั่น อาหาร และเครื่องสำอาง”

ทั้งนี้ ห้างเซ็นทรัลได้จัดสรรงบกว่า 120 ล้านบาท ทำการตลาดช่วงตรุษจีน และวาเลนไทน์ สำหรับตรุษจีน จัดรายการ “Central Chinese New Year 2017” ระหว่างวันที่ 19 ม.ค. - 5 ก.พ. ด้วยโปรโมชั่น “5ต่อ” ตั้งแต่ ส่วนลดสูงสุด 30% สะสมคะแนน ใช้คะแนนลดเพิ่ม ช้อปตามเงื่อนไขรับคูปองส่วนลด พร้อมลุ้นไอโฟน7 ส่วนนักท่องเที่ยวซื้อ 1,000 บาท ลุ้นจับรางวลกว่า 15,000 ชิ้น

ส่วนเทศกาลวาเลนไทน์ สินค้าประเภทกิฟท์ช็อปเป็นที่นิยม โดยเฉพาะแผนก ซีนโซน และซานริโอ โดยจัดรายการ “Central Season of Giving 2017” ช้อปทุก 1,500 บาท หรือนำคะแนนสะสม เดอะวันการ์ด แลกสติ๊กเกอร์เพื่อใช้สะสมเป็นส่วนลดสูงสุด 50%,

ผู้ประกอบการค้าปลีกต่างให้ความสำคัญกับเทศกาลตรุษจีน อัดฉีดงบประมาณจำนวนมากเพื่อกระตุ้นการขาย โดย กลุ่มเดอะมอลล์ ใช้งบ 100 ล้านบาท จัดแคมเปญ Glorious Chinese New Year ระหว่างวันที่ 19 ม.ค.-5 ก.พ. ที่ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และ บลู พอร์ต หัวหิน รองรับความต้องการของลูกค้าทั้งในเรื่องของความเชื่อ ขนบธรรมเนียม และความคุ้มค่าในการจับจ่ายสินค้า คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้าบาท จากการจัดงาน 18 วัน

ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ ใช้งบ 10 ล้านบาท จัดแคมเปญ Make the perfect year : Chinese New Year 2017 โบยบินสู่ช่วงเวลาแห่งโชคลาภดั่งใจหวัง ระหว่างวันที่ 25 ม.ค.- 19 ก.พ. โดยร่วมกับร้านค้ากว่า 1,000 ร้านค้า ลดราคา 80% พร้อมโปรโมชั่นลุ้นรถ Mercedes-Benz รุ่น Gla 200 เมื่อซื้อทุก 1,000 บาท

ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ใช้งบ 15 ล้านบาท จัดแคมเปญ “โรบินสัน ออน ไชนีส นิวเยียร์" จัดทัพสินค้าแฟชั่นและของใช้ในบ้านที่ลดสูงสุด 30% พร้อมโปรโมชั่นช้อปตามเงื่อนไขลุ้นรางวัลต่างๆ ตั้งเป้าเงินสะพัดกว่า 2,000 ล้านบาท กระตุ้นยอดขายไตรมาสแรกเติบโต 7% โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ คือ กลุ่มของใช้ในบ้าน อาทิ ชุดเครื่องครัว ชุดจานชาม ของประดับตกแต่งนำโชค กลุ่มสินค้าแฟชั่น และ แอคเซสซอรี่ อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวตามความเชื่อแต่โบราณ