MORNING CALL ACTION NOTES (20 ม.ค.60)

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงจากความกังวล FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลข CPI สหรัฐฯพุ่งขึ้นสู่เป้าหมายระดับ 2% ประกอบกับ Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่อง ส่งผลให้มีแรงขายในกลุ่ม Big Cap เช่น BANK ENERG COMM กดดันให้ SET ปิดที่ 1,554.88 จุด (-5.95 จุด) Vol. 5.3 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -154 ลบ. , TFEX Net -15,775 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นล่าสุด 52.3 US/Barrel หลัง IEA ระบุว่าตลาดน้ำมันโลกอยู่ในภาวะตึงตัว รวมถึงซาอุฯส่งสัญญาณโอเปกอาจลดการผลิตอีกครั้งในปีนี้หากราคาน้ำมันไม่กระเตื้อง

- นางเยลเลนประธาน FED คาดว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐจะขึ้นสู่ 2% ในอีก 2 ปีข้างหน้า ,ตลาดแรงงานจะไม่เข้าสู่ภาวะร้อนแรงเกินไป และจำเป็นต้องเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้รวดเร็วขึ้น

+/- ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ -0.4% ,คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 0.25% ,คงการใช้ QE ที่ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือนสำหรับเดือนม.ค.-มี.ค. และเดือนเม.ย.-ธ.ค.อยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน แต่อาจปรับเพิ่มวงเงิน QE หรือขยายเวลาออกไปเกินกว่าเดือนธ.ค. 2017 หากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง

- ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวลงเนื่องจากนลท.จับตาการสาบานตนรับตำแหน่งปธน.สหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ในวันนี้ แม้ว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนธ.ค. +11.3% สู่ระดับ 1.23 ล้านยูนิต

- ทิศทาง Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell 6 วันราว 5.6 พันลบ.

** 11 – 20 ม.ค. ติดตามการประกาศงบกลุ่มธนาคาร (BAY KKP ยังไม่ประกาศงบ)

ตลาดหุ้นไทยถูกแรงกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติที่เป็น Net Sell 6 วันราว 5.6 พันลบ. ,ความกังวล FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัว รวมถึงนลท.ชะลอการซื้อเพื่อติดตามพิธีสาบานตนรับตำแหน่งปธน.สหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ในวันนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงซื้อดักงบปี 2559 จะหนุนให้ดัชนีมีสลับเด้งรีบาวด์ช่วงอ่อนตัวได้ ดังนั้น ประเมินว่า SET จะอ่อนตัวสลับเด้งรีบาวด์โดยมีแนวรับที่ 1,545 - 1,550 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- กลุ่มเดินเรือ TTA PSL อานิสงส์ค่าระวางมีแนวโน้มฟื้นตัวล่าสุด 942 จุด

- กลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงและคาดว่างบ Q4/59 รวมถึงงบปี 59 จะมีกำไรเติบโตขึ้น

- STA TRUBB ราคายางพาราพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีล่าสุด 302 Yen/Kg

หุ้นแนะนำพิเศษ

IRPC    ราคาปิด 5.15 บาท   ราคาเหมาะสม 5.85 บาท

• คาดกำไร 4Q59 ปรับตัวดีขึ้น QoQ จากค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นราว 1-2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสู่ 5.5-6.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อีกทั้งคาดว่าจะมี Stock gain หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสู่ 52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 21%QoQ คาดกำไรปี 59 ที่ 1.02 หมื่นล้านบาทเติบโต 9%YoY

• คาดโครงการ UHV จะหนุนค่าการกลั่นรวมเพิ่มขึ้นอีก 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากระดับปัจจุบันสู่ 15-16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและส่งผลให้บริษัทใช้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นสู่ 195 พันบาร์เรลต่อวันเพิ่มขึ้นจากในปัจจุบันที่ 183 พันบาร์เรลต่อวันเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม

• ปี 2560 โรงงานผลิต PP จะแล้วเสร็จโดยเพิ่มกำลังการผลิตให้บริษัทอีก 3 แสนตันต่อปี ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ 7 แสนตันต่อปี ซึ่งจะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทในระยะยาว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ปลายน้ำมีอัตรากำไรที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์ต้นน้ำ

หุ้นมีข่าว

- กำไรกลุ่มธนาคารที่ประกาศออกมาแล้ว ส่วนใหญ่ดีกว่าคาด สาเหตุที่กำไรลดจากเมื่อเปรียบเทียบกับปี 58 เนื่องจากมีการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น ให้น้ำหนักการกลุ่มธนาคารเป็น “Neutral” เลือก SCB เป็นหุ้น Top Pick

- LPN (ราคาปิด 12.70 ถือ ราคาเหมาะสม 9.50 / ราคาเหมาะสม IAA consensus เฉลี่ย 9.80) เตรียมเปิดขายโครงการลุมพินี เพลส-บางนา มูลค่า 1,000 ลบ. จำนวน 609 ยูนิต วันที่ 21 ม.ค. ปจบ.มียอดจองกว่า 1 พันราย

  ความเห็น : เป็นโครงการขนาดเล็กสูง 8 ชั้นเพื่อให้สามารถสร้างเสร็จและโอนได้เร็วที่สุดมาเสริมโครงการตามแผนเดิม ฝ่ายวิจัยประมาณการรายได้ปี 60 มีแนวโน้มหดตัว 25% จากปี 59 เหลือราว 1.13 หมื่นล้านบาทเนื่องจากมีbacklog ต่ำเพียง 1,384 ลบ.ประกอบกับโครงการที่มีแผนโอนมีมูลค่ารวม 8,911 ล้านบาทลดลง 33% จากปี 59 โดยประมาณการกำไรปี 60 ราว 1,351 ล้านบาท หดตัว 43%YoY

- BKD ลงนามสัญญารับเหมาตกแต่งภายใน"สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์"มูลค่า 718.75 ลบ. มีระยะเวลาดำเนินการ 12 เดือน

- TAPAC ปันผลเป็นหุ้น-เงินสด พร้อมเพิ่มทุนรองรับจ่ายหุ้นปันผล-วอร์แรนต์ที่ให้ฟรีผถห.เดิม 2.5:1

- TWPC คาดรายได้ปี 59 โตกว่าปี 58 รับผลบวก Q4/59 เป็นไฮซีซั่นมีวัตถุดิบป้อนรง.มาก,ตลาดแป้งมันตปท.สดใส

- EFORL เผยใช้เงินทุนหมุนเวียนชำระตั๋ว B/E วงเงิน 200 ลบ.ให้ บลจ.โซลาริส แล้ว

- BCP จะใช้เงิน 42.5 ล้านดอลลาร์แคนาดา เข้าถือหุ้นเหมืองลิเทียมเพิ่มเป็น 16.4% จาก 6.7% ขณะนี้

- PPM เซ็นบันทึกข้อตกลงร่วมมือ Pacific Star Energy กัมพูชาทำธูรกิจโซลาร์ฟาร์ม

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -72.32 จุด

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 19,732.40 จุด ลดลง 72.32 จุด หรือ -0.37% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,540.08 จุด ลดลง 15.57 จุด หรือ -0.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,263.69 จุด ลดลง 8.20 จุด หรือ -0.36% เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึง ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้นมากเกินคาดในเดือนธ.ค.

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.29 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 51.37 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ระบุว่า ตลาดน้ำมันโลกอยู่ในภาวะตึงตัว