ปล้น3คูหา กลางเมืองโคราช คืนเดียวได้ทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก

ปล้น3คูหา กลางเมืองโคราช คืนเดียวได้ทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก

คนร้ายก่อเหตุงัดอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 3 คูหา กลางเมืองโคราช คืนเดียวได้ทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก

นครราชสีมา วันนี้ (20 ม.ค. 60) เวลา 08.30 น. พันตำรวจโท ณธพัฒ ภคนนท์ปกรณ์ สารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ได้รับแจ้งจากพนักงานบริษัท พร้อมเมเนจเม้นท์ เซอร์วิส จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1195/51 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ว่าอาคารพาณิชย์ของบริษัทฯ ทั้ง 3 อาคาร ถูกคนร้ายงัดเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ คาดว่าจะมีทรัพย์สินมีค่าสูญหายไปหลายรายการ หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 3 คูหา ตั้งอยู่ติดกัน พบพนักงานของบริษัทฯ ดังกล่าว กำลังจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพบว่า อาคารห้องแรกที่ถูกงัด ด้านล่างถูกดัดแปลงให้เป็นสำนักงาน ภายในมีร่องรอยถูกรื้อค้นทรัพย์สินกระจัดกระจาย ส่วนอาคารห้องที่ 2 และ ห้องที่ 3 ใช้เป็นที่เก็บอุปกรณ์สำหรับตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ก็มีร่องรอยถูกรื้อค้นเช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจุดที่คนร้ายงัดเข้ามา อยู่ด้านหลังของอาคารห้องที่ 3 โดยพบว่าแผ่นไม้ที่ปิดกั้น มีร่องรอยถูกงัดจนแตก

จากการสอบถาม นางวาสินี ชมด่านกลาง อายุ 28 ปี พนักงานบัญชีของบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้พบเหตุคนแรก ทราบว่า บริษัทฯ นี้ เป็นบริษัทที่รับติดตั้งอุปกรณ์เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และ จ.ใกล้เคียง โดยได้มีการจัดซื้ออาคารพาณิชย์ดังกล่าวไว้ 2 ห้อง และทำการเช่าอีก 1 ห้อง เพื่อทำเป็นสำนักงานและโกดังเก็บวัสดุอุปกรณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่มีร่องรอยการถูกงัด หรือถูกรื้อค้น จึงคาดว่า คนร้ายน่าจะอาศัยช่วงกลางดึก ที่ไม่มีคนนอนเฝ้าบริษัท ปีนเข้ามาทางด้านหลังอาคาร ก่อนจะทำลายแผ่นไม้ และมุดตัวเข้ามาเดินรื้อค้นทรัพย์สินมีค่าภายในบริษัท ก่อนจะหลบหนีไป

ด้านสารวัตรเวรสอบสวน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีทรัพย์สินมีค่าสูญหายไปมากเท่าใด เนื่องจากภายในอาคารทั้ง 3 คูหา มีทรัพย์สินมีค่าถูกเก็บไว้มาก ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์สำนักงาน และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ส่วนทรัพย์สินมีค่าของพนักงานก็พบว่ามีสูญหายไปบางส่วน ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อที่จะได้เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป