สิงคโปร์หนุนท่องเที่ยวทางเรืออาเซียน

สิงคโปร์หนุนท่องเที่ยวทางเรืออาเซียน

สิงคโปร์ ยึดเวทีอาเซียน ประกาศหนุนสมาชิกพัฒนาท่องเที่ยวทางเรือร่วม หวังยกภาพลักษณ์สู่แคริบเบียนแห่งตะวันออก 

นายโอลิเวอร์ ชอง ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายสื่อสารและการตลาด การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (เอสทีบี) กล่าวว่า ในการเปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วม "วิสิท อาเซียน แอท ฟิฟตี้" ของสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศระหว่างการจัดงานอาเซียน ทัวริซึ่ม ฟอรั่ม (เอทีเอฟ) เพื่อฉลองความร่วมมือครบรอบ 50 ปีของอาเซียน และพัฒนาความร่วมมือยกระดับภูมิภาคเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งเดียวร่วมกัน เพื่อดึงดูดตลาดที่มีศักยภาพทั้งในภายในภูมิภาค และตลาดนอกภูมิภาคที่มีกำลังซื้อนั้น สิงคโปร์ ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้เป็นประเทศผู้นำในการพัฒนาการท่องเที่ยวทางเรือ (ครุยส์) เตรียมส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกร่วมกันพัฒนาเส้นทางเดินเรือ รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการรองรับ เช่น ท่าเรือและอาคารผู้โดยสารที่มาตรฐานเพื่อรองรับตลาด พร้อมกับจะช่วยกระตุ้นให้บริษัทนำเที่ยวหันมาขายเส้นทางเดินเรือในอาเซียนมากขึ้น

จากการสำรวจอุตสาหกรรมครุยส์ทั่วโลกขององค์กรการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ) ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ย 7.5% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยของการท่องเที่ยวทั่วไปซึ่งอยู่ที่ 3.8% ต่อปี โดยในประเทศเอเชียคาดการเติบโตสูงกว่า 10% ขึ้นไป ตามแนวโน้มของบริษัทเดินเรือ (Cruise Lines) ที่เริ่มมองหาเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ มากขึ้น และมีการประเมินศักยภาพเส้นทางเดินเรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าสามารถยกระดับเป็น "แคริบเบียนแห่งตะวันออก" ได้ หากมีการพัฒนาทั้งโครงสร้างและการตลาดที่สอดรับ

"สิงคโปร์มีความพร้อมรับตลาดท่องเที่ยวทางเรือ มีครุยส์เซ็นเตอร์ 2 แห่งที่รองรับการเดินเรือขนาดใหญ่ได้ ปัจจุบันมีลูกค้าที่เริ่มสนใจแนวทางท่องเที่ยวนี้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากอินเดียและออสเตรเลีย แต่การพัฒนาท่องเที่ยวทางเรือเป็นตลาดที่ต้องทำงานร่วมกันในอาเซียน ดังนั้นในกรอบความร่วมมือของอาเซียน จะต้องผลักดันให้สมาชิกสามารถวางแนวทางการพัฒนาร่วม การหาเส้นทางที่เหมาะสมสำหรับการเดินเรือ การสนับสนุนให้แต่ละประเทศพัฒนาท่าเรือเพื่อให้มีจุดจอดมากขึ้น และผลักดันให้เอเยนต์ทัวร์หันมาขายเส้นทางเดินเรือในอาเซียนมากขึ้นด้วย"

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวทางเรือจะเป็นหนึ่งเส้นทางที่อาเซียนพัฒนาร่วมกัน เพื่อเป้าหมายสร้างรายได้รวมในภูมิภาคภายในปี 2560 ให้ถึง 4.3 แสนล้านบาทจากนักท่องเที่ยวต่างภูมิภาค และมีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 121 ล้านคน 

นอกจากนั้น สิงคโปร์มีแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวครุยส์ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย โดยภายใต้การจัดตั้งกองทุนพัฒนาท่องเที่ยว (Tourism Development Fund) งบประมาณราว 700 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (1.7 หมื่นล้านบาท) ซึ่งมีระยะเวลา 5 ปี (2559-2563) นั้น วางแผนการพัฒนาสินค้าท่องเที่ยว (Tourism Product Development Scheme) ด้วยการส่งเสริมกองทุนการพัฒนาด้านครุยส์ หรือ Cruise Development Fund ขึ้นมาโดยเฉพาะ มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาท่าเรือแห่งใหม่หรือการปรับปรุงขยายขีดความสามารถในการรองรับของท่าเรือเดิมที่มีอยู่ และขยายการสนับสนุนตลาดครุยส์จากเดิมที่ทำงานร่วมกันเฉพาะบริษัทเดินเรือ ให้ขยายครอบคลุมไปถึงบริษัทนำเที่ยว, อีเวนท์ ออกาไนเซอร์ หรือผู้จัดอีเวนท์ต่างๆ ในการเช่าเรือเพื่อเดินทางออกจากท่าที่สิงคโปร์

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ไทยมีโอกาสขยายขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวทางเรือในเส้นทางทะเลอาเซียนได้ ซึ่งนอกจากการผลักดันภาคใต้ของไทย ที่อ่าวปอ จ.ภูเก็ต ให้เป็นตลาดซื้อ-ขายสินค้าท่องเที่ยวทางทะเลผ่านการจัดมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า ไทยแลนด์ ยอร์ช โชว์ ไปแล้ว 2 ครั้ง ยังมองศักยภาพในระยะยาวในการพัฒนาท่าเรือในฝั่งตะวันออก ที่จะรองรับการเดินทางเข้ามาฝั่งอ่าวไทยขึ้นอีกจุด เนื่องจากรัฐบาลเริ่มดำเนินโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development) พร้อมกับอนุมัติกรอบลงทุนราว 3 แสนล้านบาทแล้วสำหรับการพัฒนา 3 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา นั้น ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาท่าเรือพาณิชย์สัตหีบให้เป็นจุดจอดเรือยอร์ช ประกอบกับวางแผนการขยายท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดด้วย

"ไทยไม่ได้มองประเทศอาเซียนเป็นคู่แข่ง แต่เชื่อว่าแต่ละประเทศสามารถใช้จุดแข็งมาเสริมให้การท่องเที่ยวของแต่ละประเทศมาช่วยเสริมให้ภาพรวมระดับภูมิภาคมีความน่าสนใจในฐานะจุดหมายเดียวได้" นายยุทธศักดิ์ กล่าว