วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 19 มกราคม 2560

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 19 มกราคม 2560

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังนักลงทุนกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบในสหรัฐที่จะเพิ่มขึ้น

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนวิเคราะห์ว่าราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นประกอบกับการปรับลดกำลังการผลิตจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบโอเปค จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดานในสหรัฐ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น 40,750 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.พ. 60 ไปสู่ระดับ 4.748 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- ค่าเงินดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินในตะกร้าหลัก ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบที่ใช้เงินสกุลดอลลาร์ เนื่องจากสัญญามีราคาเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

+ รายงานประจำเดือนของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบโอเปค เปิดเผยว่าโอเปคผลิตน้ำมันดิบ 33.085 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ธ.ค. 59 ซึ่งปรับตัวลดลง 221,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 59 นอกจากนี้ โอเปคปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบจากประเทศนอกกลุ่มโอเปคในปี 2560 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 120,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับระดับ 300,000 บาร์เรลต่อวันที่คาดการณ์ไว้ในเดือนก่อนหน้า

+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) รายงานปริมาณตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ม.ค. 60 ปรับตัวลดลง 5.04 ล้านบาร์เรล ไปอยู่ที่ระดับ 479.23 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 342,000 บาร์เรล นอกจากนี้ ปริมาณตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวลดลง 1.01 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินที่เข้ามาทำกำไรระยะสั้นจากฝั่งตะวันตกปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก จากการกลับมาดำเนินการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หลังปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากการกลับมาดำเนินการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หลังปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และศรีลังกา

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

           ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

           ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- ข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตกลุ่มโอเปคและนอกกลุ่มโอเปคมีความชัดเจนมากขึ้น หลังซาอุดิอาระเบียเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นว่าลูกค้ากลุ่มใดที่โดนปรับลดปริมาณการส่งออกลง สำหรับในเอเชียจะถูกปรับลดโดยเฉลี่ยลงร้อยละ 5-10 นอกจากนี้ คูเวตและอิรักออกมาเปิดเผยว่าปริมาณการผลิตล่าสุดได้ปรับลดลงแล้ว โดยคูเวตได้ปรับลดปริมาณการผลิตลงมาอยู่ที่ระดับ 2.707 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อน ขณะที่อิรักปรับลดลงไปแล้วกว่า 170,000 บาร์เรลต่อวัน และภายในสัปดาห์นี้เตรียมที่จะปรับลดกำลังการผลิตอีก 40,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อให้ไปเป็นไปตามข้อตกลงที่จะปรับลดปริมาณการผลิตลง 210,000 บาร์เรลต่อวัน

- จับตาสถานการณ์ในลิเบียหลังรัฐบาลเตรียมประกาศยุติการส่งมอบน้ำมันดิบจากท่าเรือทางด้านตะวันตกจากเหตุสุดวิสัย หลังพบมีการลักลอบน้ำมันดิบที่ท่าเรือ ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นช้าลง โดยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 750,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 600,000 บาร์เรลต่อวัน

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ หลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะขึ้นมาอยู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ธ.ค. 2558

                    -----------------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-797-2999