เร่งฟื้นเชื่อมั่นกองทุนรวม ตลาดเชื่อไม่ซ้ำรอยวิกฤติ40

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า สถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้ตั๋วกู้เงินระยะสั้น (บีอี) ที่เกิดขึ้นนั้นไม่น่ากังวล และมองว่าผลกระทบอยู่ในวงจำกัด เฉพาะบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) เท่านั้น และไม่ได้กระทบกับภาพรวมของอุตสาหกรรม

หากต้องการให้การลงทุนในตั๋วเงินระยะสั้น มีความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจ บริษัทตัวกลางในฐานะผู้ลงทุน อาจใช้วิธีการลดสัดส่วนการถือครองตราสารระยะสั้นลดลง

“สถานการณ์ของการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอีมองว่าไม่น่ากังวล และเกิดขึ้นเฉพาะบลจ.ที่เน้นการลงทุนให้บริการในรูปแบบดังกล่าวเท่านั้น หากต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนเพิ่มขึ้น อาจจะใช้วิธีลดสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นของแต่ละกองทุน จากปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดให้ลงทุนหุ้นกู้หรือตั๋วบีอีแต่ละแห่งไม่เกิน 20% ของมูลค่าเอ็นอีวี ”

ที่ผ่านมาจะพบว่า บลจ.ที่ประสบปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งส่วนใหญ่กองทุนที่ลงทุนในประเภทดังกล่าวจะเป็นกองทุนเทอมฟันด์ มีกำหนดการลงทุน 3-6 เดือน ซึ่ง บลจ.จะกระจายการลงทุนไปในแต่ละบริษัท เพื่อให้ผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย และขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุน และความเสี่ยง หากต้องการให้เกิดความกระจายความเสี่ยงมากขึ้นก็อาจต้องปรับสัดส่วนการลงทุนในแต่ละบริษัทลง

บัวหลวงลงทุน5%เอ็นเอวี

การลงทุนของบลจ.บัวหลวงในตราสารหนี้นั้น กำหนดนโยบายไว้ชัดเจนว่า จะไม่ลงทุนในตราสารหนี้ที่ไม่ทำเรทติ้ง และจะลงทุนในตราสารหนี้ที่เรตติ้งไม่ต่ำกว่า A- และจะลงทุนในแต่ละบริษัทไม่เกิน 5 % ของเอ็นเอวี

“นอนเรทติ้ง”หนี้คงค้าง13%

สมาคมตราสารหนี้ไทยรายงานว่า ณ วันที่ 16 ม.ค. 2560 มีตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งสิ้น 3.2 แสนล้านบาท โดยเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นที่ไม่ทำเรทติ้ง 41,760 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13 % ของทั้งหมด ซึ่งในฝั่งของบริษัทจดทะเบียนนั้น จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ณ.วันที่ 30 พ.ย. 2559 พบว่า มียอดหนี้ตั๋วระยะสั้นคงค้างที่ไม่นับรวมสถาบันการเงินทั้งสิ้น 156,722 ล้านบาท หากเทียบกับยอดหนี้ตั๋วระยะสั้นคงค้างกับ หนี้สินรวมของบริษัทจดทะเบียนในปัจจุบันจะพบว่าอยู่ที่ 7.89 % ของทั้งหมด ปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนหนี้สินต่อทุน ทั้งสิ้น 1.78 เท่า ซึ่งถือว่ามีความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ตราสารหนี้ที่ไม่จัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ได้มีปัญหาทั้งหมด และหลายบริษัท มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง แต่ออกตราสารหนี้ระยะสั้นโดยไม่จัดอันดับเพราะเชื่อมั่นใจภาพลักษณ์ และ ความเข้มแข็งของบริษัท จึงไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายในการจัดอันดับ และการออกตั๋วกู้เงินระยะสั้นอาจมีต้นทุนโดยรวมถูกกว่ากู้เงินสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นจะเกิดเฉพาะแห่งเท่านั้น จะไม่ลามไปทั้งระบบ และขึ้นอยู่กับนโยบายธุรกิจในการขยายตลาด และ นโยบายการลงทุน ของแต่ละ บลจ.ส่วนผลกระทบกับผู้ลงทุนจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ หรือ เอไอ ไม่ได้กระทบกับนักลงทุนทั่วไป

กรณีที่สภามีความเป็นห่วงคือ การออกตั๋วกู้เงินระยะสั้นแล้ว มีการออกตั๋วใหม่เพื่อชดเชยของเก่าที่หมดอายุไปเรื่อยๆ เพื่อนำเงินกู้ระยะสั้นใช้ทดแทนการกู้เงินระยะยาว ผู้ลงทุนต้องคำนึงถึงความเสี่ยง หากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สภาพคล่องในระบบการเงินในระบบปรับลดลง บริษัทจดทะเบียนอาจเกิดปัญหาได้ นอกจากนี้ หากผู้ลงทุนเกิดความเชื่อมั่น บริษัทที่จะออกตราสารหนี้อาจเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง เพราะอาจจไม่มีใครกล้าที่เสี่ยงลงทุนในตราสารหนี้ในระยะนี้

ตลาดแจงบจ.มีหนี้บีอี100ราย

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่เกิดปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการพูดคุยกับบริษัทจดทะเบียนที่มีการออกตั๋วบีอี บริษัทจดทะเบียนเหล่านั้นมีการเตรียมพร้อมที่ดี และเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ ที่ผ่านมามีบริษัทที่ระดมทุนผ่านตั๋วดังกล่าวมากกว่า 100 บริษัท

ทั้งนี้ การผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้น 3 กรณีล่าสุดนั้นจะพบว่า เป็นประเด็นเฉพาะตัว ในความเข้มแข็งของบริษัทจดทะเบียนไทยนั้น ตลาดหลักทรัพย์ยังยืนยันว่ามีความแข็งแกร่ง ซึ่งบริษัทจดทะเบียนไทยได้เคยผ่านวิกฤติหนักในปี 2540 แล้ว เราเชื่อว่าจะไม่ย้อนกลับไปในจุดดังกล่าวอีกแล้ว

ซีไอเอ็มบีลงทุนบีอี2พันล้าน

นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีกองทุนเทอมฟันด์เดิมที่ออกก่อนเดือน ก.ย.ปีก่อนที่มีการลงทุนตั๋วบีอีนอนเรท ลงทุน 3 กองทุนที่จะครบกำหนดในเดือนปลายเดือน ก.พ.นี้มี 2 กองทุน และปลายเดือน มี.ค.นี้ อีก 1 กองทุน มีรวมมูลค่ารวมกันไม่ถึง 2,000 ล้านบาท และมีสัดส่วนทุนตราสารนอนเรทน้อยมากไม่ถึง 20% ของ 3 กองทุน

บริษัทยังคงติดตามการแก้ปัญหาหนี้ตั๋วเงินระยะสั้น (B/E) ของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC โดยยังรอความชัดเจนในการประชุมผู้ถือหุ้น IFEC วันที่ 25 ม.ค.นี้ หวังว่า จะมีความชัดเจนในทิศทางที่ดีขึ้นและขณะนี้ตั๋วบี/อี ของ IFEC ที่บริษัทถืออยู่ยังไม่ครบกำหนดชำระหนี้ จึงยังไม่มีการผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด

ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ากองทุนเทอมฟันด์ทั้งสิ้น4,500ล้านบาท ถือสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมทั้งหมดกว่าแสนล้านบาท โดยนอนเรท 12% ของ 2,000 ล้านและมูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท