สถาบันมอง‘หุ้นไทย’สดใส ชูธีมปี 60 เน้นคัดปันผล

สถาบันมอง‘หุ้นไทย’สดใส ชูธีมปี 60 เน้นคัดปันผล

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยคาดการณ์การเติบโตของกำไรตลาดหุ้นไทย หรือ EPS Growth ปี 2560 จะอยู่ที่ 12%

สถาบันมอง‘หุ้นไทย’สดใส ชูธีมปี 60 เน้นคัดปันผล

นักลงทุนสถาบันยังคงมีมุมมอง “เชิงบวก” ต่อตลาดหุ้นไทยปี 2560 แม้ว่ารอบปีที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับเพิ่มขึ้นถึง 20% โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า 3%

“วิน พรหมแพทย์” ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ซีไอเอ็มบี พรินซิเพิล จำกัด มองภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปี 2560 มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับ2-3ปีที่ผ่านมา และประเมินว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น ภายหลังจากปี 2559 ดัชนีได้ปรับเพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 20%

ปัจจัยบวกที่เป็นแรงหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทย สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกปีนี้ มาจากการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดว่าจีดีพีจะเติบโต3.2-3.5% เป็นผลจากภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม และคาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้คลี่คลายได้เร็ว อีกทั้งการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศตลอดจนภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่า จะเติบโตได้ดี

ขณะที่ค่าเงินบาทถือว่า มีเสถียรภาพกว่าเงินสกุลอื่นๆในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ระดับต่ำ คาดว่า กนง. จะคงไว้ที่ระดับ1.5% ตลอดทั้งปีนี้ เงินทุนสำรองในประเทศยังสูงมาก จึงส่งผลให้ การลงทุนในหุ้นปันผล มีความน่าสนใจ จากผลตอบแทนที่อยู่ในระดับสูง และมุมมองด้านสถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพ คาดว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายในปี 2560หรือต้นปี 2561 ตามโรดแมพที่วางไว้ จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในสายตานักลงทุนต่างชาติ

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยคาดการณ์การเติบโตของกำไรตลาดหุ้นไทย (EPS Growth) ปี 2560 จะอยู่ที่ 12% (ที่มา Bloomberg, ธันวาคม 59) ส่วนแรงขายหุ้นจากนักลงทุนต่างชาติน่าจะมีไม่มากแล้ว หลังจากที่สัดส่วนการลงทุนของต่างชาติในตลาดหุ้นไทยปรับลดลงอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2555 จากเดิมเคยมีสัดส่วนสูงสุดที่ 36% ปัจจุบันเหลืออยู่ที่ 29% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี

อย่างไรก็ตาม จากการที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับตัวขึ้นประมาณ 20% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นจากทั่วโลกที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด จึงประเมินว่าการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นในปีนี้มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นแต่ค่อนข้างจำกัด 

โดยปัจจุบัน Valuation (มูลค่า) ของหุ้นไทย ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ค่า Forward PE ประมาณ 14 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีย้อนหลังเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคนี้ก็ยังถือว่าต่ำกว่า ดังนั้นโอกาสของตลาดหุ้นไทยยังถือน่าสนใจ (ที่มา Bloomberg, ธันวาคม59)

“วิน” บอกว่า จากการประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยถึงแม้ว่ามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่อาจจะมีความผันผวนเป็นระยะ จึงแนะนำการให้ลงทุนสำหรับตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ภายใต้ธีม ‘Smart Dividend’ โดยทีมผู้จัดการกองทุนหุ้นไทยมีการกำหนดกระบวนการคัดเลือกลงทุนเพื่อให้ได้หุ้นคุณภาพ 3 ประการ คือ

1) อัตราเงินปันผลดี มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ดีในระดับสูง 2) ศักยภาพเติบโต กระแสเงินสดดี ศักยภาพเติบโต มีโอกาสสร้างกำไรในอนาคต และ 3) บรรษัทภิบาลดี บริษัทคุณภาพหลักบรรษัทภิบาล CG Scoring ระดับ 3 ดาวขึ้นไปจัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการไทย

จากเกณฑ์การคัดเลือกทีมผู้จัดการกองทุนได้จัดทำพอร์ตจำลอง Back Test Model พบว่าพอร์ตจำลองสามารถสร้างผลตอบแทน 5 ปีย้อนหลังได้ถึง 113.8% สูงกว่าเมื่อเทียบกับ SET100 อยู่ที่ 81.7% เรามองว่าการเลือกลงทุนในหุ้นปันผลสูงและมีศักยภาพเติบโตนั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าและมีความผันผวนต่ำกว่าอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิง”

ล่าสุด บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จึงเตรียมเปิดขาย IPO กองทุนใหม่ ‘กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ไทย ไดนามิก อินคัม อิควิตี้’ ในวันที่ 19-27 ม.ค.2560 ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งทุนที่มีขนาดกองทุน 3,000 ล้านบาท ราคาเสนอขาย IPO ที่ 10 บาทต่อหน่วย ค่าธรรมเนียมการซื้อ 1% ของมูลค่าหน่วยลงทุน เงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท และจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนประมาณปีละ 2 ครั้ง

โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนหรือหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ที่เน้นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ดีหรือเป็นบริษัทที่มีประวัติการจ่ายปันผลที่ดีและอยู่ในระดับสูง

นอกจากนี้ กองทุนฯ อาจพิจารณาลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) รวมถึงตราสารอื่นๆ หรือหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ในช่วงการเปิดเสนอขายครั้งแรกของกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ไทย ไดนามิก อินคัม อิควิตี้

“ในระยะยาวยังเชื่อมั่นว่า ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเติบโตดี แม้ระยะสั้น อาจผันผวนบ้าง ในจังหวะที่ทรัมป์เตรียมเข้ารับตำแหน่งในการสาบานตน วันที่ 20 ม.ค.นี้ แต่บริษัทมีนโยบายเลือกหุ้นยังมี up side การเลือกหุ้น ในกลุ่มที่เป็นสาธารณูปโภค หุ้นปันผลดีและยังเติบโตต่อได้"