เครื่องเซ่นไหว้ตรุษจีนสะพัด 6.4 พันล้าน

เครื่องเซ่นไหว้ตรุษจีนสะพัด 6.4 พันล้าน

บรรยากาศการจับจ่ายเครื่องเซ่นไหว้ช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้อาจ “ไม่คึกคัก” หลังประชาชนใช้จ่ายเทศกาลปีใหม่ -ช้อปช่วยชาติช่วงปลายปี

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2560 คนกรุงเทพฯ จะมีเม็ดเงินเพื่อการจับจ่ายใช้สอยเครื่องเซ่นไหว้สะพัดราว 6,400 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.0 หรือเฉลี่ย 3,600 บาทต่อครัวเรือน เม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นมาจากปัจจัยด้าน “ราคา” เป็นหลัก

แม้ว่าตรุษจีนจะเป็นเทศกาลที่ลูกหลานชาวจีนให้ความสำคัญมากที่สุดเมื่อเทียบกับเทศกาลอื่นๆ แต่ในปีนี้ จากบรรยากาศที่ไม่เอื้อ ประกอบกับกำลังซื้อ ที่ถูกกดดันจากภาระค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่ปรับเพิ่มขึ้น และการใช้เงินจับจ่ายในช่วงปีใหม่และมาตรการช้อปช่วยชาติปลายปีก่อน ทำให้ลูกหลานจีนบางส่วนยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายและหันมาเก็บออมมากขึ้น

นอกจากนี้เม็ดเงินแต๊ะเอีย/อั่งเปา ที่ปกติมีการแจกจ่ายให้กับลูกหลาน รวมถึงลูกจ้างพนักงาน ก็อาจจะไม่เพิ่มขึ้น จากปีก่อนท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ที่ผ่านมาเม็ดเงินดังกล่าวได้กระจายไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ท่องเที่ยว ทาบุญและชอปปิง เป็นต้น ทำให้คาดว่า ความคึกคักของธุรกิจ

ดังกล่าวในช่วงเทศกาลตรุษจีน อาจจะได้รับผลกระทบตามไปด้วยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตลาดจับจ่ายเครื่องเซ่นไหว้อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลง โดยลูกหลานคนจีนรุ่นใหม่ มีบทบาทเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะข้างหน้า จากการสืบทอดประเพณีจากคนจีนรุ่นก่อน การขยายครอบครัว รวมทั้งแนวโน้มที่คนจีนรุ่นก่อนจะมอบหมายให้ลูกหลานเป็นผู้จับจ่ายแทนมากขึ้น

อย่างไรก็ดีกลุ่มคนจีนรุ่นก่อนแม้บทบาทจะทยอยลดลง แต่ปัจจุบันก็ยังถือเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่สำคัญที่ธุรกิจยังไม่ควรมองข้าม และค่อนข้างมีอำนาจการตัดสินใจซื้อในครอบครัว

สิ่งที่ต้องการเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มลูกค้าคนจีนรุ่นก่อน คือ ความครบครันของเครื่องเซ่นไหว้ เพราะยังให้ความสำคัญกับความครบถ้วนของพิธีกรรม ทำให้งบประมาณที่ใช้จ่ายสำหรับเครื่องเซ่นไหว้โดยรวมยังสูงกว่ากลุ่มคนจีนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ดีคนกลุ่มนี้เริ่มมีอายุและประสบปัญหาด้านสุขภาพ จึงมีอุปสรรคในการเดินทางเพื่อซื้อเครื่องเซ่นไหว้ ทำให้พฤติกรรมในการจับจ่ายเริ่มเปลี่ยนไป เช่น บางส่วนหันมาซื้อ จากร้านค้าหรือตลาดใกล้บ้าน หรือเริ่มใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร อาทิ โทรศัพท์มือถือ โซเชียลมีเดีย/ สื่อออนไลน์ (Line หรือ Facebook) มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อ สินค้าจากร้านประจำ แทนการเดินทางไปจับจ่ายยังตลาดดั้งเดิม (เยาวราช)

ขณะเดียวกัน นอกจากความสะดวกรวดเร็วแล้ว ลูกหลานคนจีนรุ่นใหม่จะให้ความสำคัญกับการเลือกจับจ่ายจากแหล่งที่นำเสนอสินค้าและบริการที่ดีที่สุดภายใต้ราคาที่สมเหตุผล อาทิ มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย สามารถจบความต้องการได้ภายในที่เดียว และมีการให้บริการที่ตอบโจทย์ทั้งบริการจัดส่งและช่องทางการชำระเงิน เป็นต้น

ดังนั้นการทาตลาดของผู้ประกอบการธุรกิจตลาดเครื่องเซ่นไหว้จึงควรปรับเปลี่ยนรูปแบบโดยคำนึงถึงพฤติกรรมการจับจ่ายของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งสองกลุ่ม กลยุทธ์ที่คาดว่าจะดึงความสนใจของกลุ่มคนจีนรุ่นก่อน น่าจะอยู่ที่การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสินค้า ผ่านระบบการสั่งซื้อ-จัดส่งสินค้าที่รวดเร็วทันใจ อาทิ การสั่งซื้อ สินค้าทางโทรศัพท์ หรือช่องทางออนไลน์ (ในกรณีลูกค้าวัยกลางคนขึ้นไปที่เปิดรับเทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ๆ)

ในขณะที่บริการจัดส่งถึงที่และชำระสินค้าปลายทาง (คืน/เปลี่ยนได้หากไม่พอใจ) น่าจะทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนีก้ ล้าตัดสินใจเลือกใช้ช่องทางการจำหน่ายนี้มากขึ้น ส่วนกลยุทธ์เพื่อสร้างความสนใจให้กับกลุ่มลูกหลานคนจีนรุ่นใหม่ น่าจะได้แก่ การนำเสนอเครื่องเซ่นไหว้ที่หลากหลายระดับราคา มีการคัดคุณภาพสินค้าที่ตรงความต้องการ รวมทั้งมีรูปลักษณ์สินค้าที่แปลกใหม่ เช่น เครื่องเซ่นไหว้และเมนูพร้อมทานหลังการไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลในครอบครัว การจัดเซตเครื่องเซ่นไหว้ไว้ครบถ้วนในที่เดียวกัน

หรับผู้ประกอบการเครื่องเซ่นไหว้รูปแบบดั้งเดิม เช่น ตลาดสด ตลาดเยาวราช แม้ว่าจะมีความได้เปรียบในกลุ่มสินค้าอาหารสด ผลไม้ อาหารแห้ง/ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาอาหาร เครื่องเซ่นไหว้ แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่องการเข้าถึงสินค้า หรืออุปสรรคในการเดินทางของลูกค้า จึงอาจจะพิจารณาการเพิ่มบริการจัดเซตเครื่องเซ่นไหว้หลากหลายระดับราคาจากเดิมที่เคยแยกกันจำหน่าย พร้อมบริการรับส่งสินค้าถึงที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าประจำหรือคนรุ่นใหม่ อยู่กับความพร้อมของบุคลากรและความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการเครื่องเซ่นไหว้ในละแวกเดียวกัน

ขณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ รวมถึงร้านอาหาร ซึ่งสามารถทำตลาดได้ดีในกลุ่มอาหาร ขนมไหว้ต่างๆ จากความโดดเด่นทางด้านการพัฒนาเมนูเครื่องเซ่นไหว้ปรุงสุกพร้อมรับประทาน อีกทั้งยังสามารถจัดเซตเครื่องเซ่นไหว้หลากหลายระดับราคาตามงบประมาณของลูกค้าและมีรูปแบบการชำระเงินหลายช่องทาง

อย่างไรก็ดี เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำตลาด นอกเหนือจากการจับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่แล้ว การหันมาทำตลาดกับผู้บริโภคผู้ซื้อคนรุ่นก่อน ก็น่าจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสินค้าของคนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น เช่น การสั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์ หรือเก็บเงินปลายทาง รวมถึงการโฆษณาผ่านสื่อดั้งเดิมที่ยังได้รับความนิยม อย่าง โทรทัศน์ เป็นต้น ผ่านโปรโมชั่นที่จูงใจ อาทิ ให้ส่วนลดพิเศษ หรือของแถม/ เมนูพิเศษ เฉพาะช่องทางการสั้่งซื้อนี้ เป็นต้น