ศธ.คัดร.ร.ใต้น้ำท่วม เข้าโครงการไอซียู

ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลให้สถานศึกษาในสังกัด ศธ.ได้รับความเสียหาย 2,334 โรง จำแนกเป็น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 1,865 โรง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 19 โรง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 309 โรง สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 3 โรง และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) 138 โรง เบื้องต้นประมาณการความเสียหายอยู่ที่ 817 ล้านบาท 

ทั้งนี้ สังกัด สพฐ.ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ในทางกายภาพ คือ ทั้งอาคารเรียน อาคารประกอบ ถนน รั้วโรงเรียน และจนถึงขณะนี้ยังมีโรงเรียนอีก 45 โรงที่ไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ ดังนั้น นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เห็นว่าควรจะพิจารณาโรงเรียนของ สพฐ.ที่มีปัญหาและเสียหายเข้าร่วมโครงการโรงเรียนที่ประสบปัญหาวิกฤตทางการศึกษา หรือ โรงเรียนไอซียู

“ การพิจารณาโรงเรียนทางภาคใต้เข้าร่วมโครงการไอซียู จะเน้นที่มีปัญหากายภาพซึ่งพบว่าโรงเรียน สพฐ.หลายโรงเรียนมีปัญหาหลังคา ฝ้าเพดานที่ใช้งานมายาวนานหลายสิบปี ไม่เคยได้รับการซ่อมแซม เมื่อเจอน้ำท่วมขังจึงยุบตัวก็จะเลือกโรงเรียนกลุ่มนี้เข้าร่วมก่อน เพราะเป็นเคสเร่งด่วนคาดว่าจะมีประมาณ 100 โรง และจะต้องเร่งแก้ไขซ่อมแซมให้เสร็จโดยเร็วภายในช่วงเวลา 3 เดือนที่ปิดภาคเรียน เมื่อเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ เบื้องต้น สพฐ.ได้จัดสรรงบประมาณไปยังโรงเรียนเพื่อจัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนเพื่อสามารถจัดการเรียนการสอนได้ก่อนทั้งนี้ ในวันที่19 ม.ค.นี้ รมว.ศึกษาธิการจะลงพื้นที่เยี่ยมโรงเรียนน้ำท่วมด้วย”ปลัด ศธ.กล่าว

ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนรายชื่อโรงเรียนไอซียูนั้นได้ขอให้ สพฐ. สอศ.และ กศน.กลับไปทบทวนใหม่ เพราะรายชื่อที่ส่งมามีจำนวนมากและหลายแห่งอาการไม่หนักที่จะเข้าร่วมโครงการ ล็อตแรกอาจจะไม่ถึง 3,000 แห่ง เพราะอยากให้โรงเรียนได้รับการช่วยเหลือด้านงบประมาณอย่างเต็มที่เพื่อให้ฟื้นตัวได้ทันที ภายในสัปดาห์นี้น่าจะได้รายชื่อเพื่อจะได้สรุปโครงการความช่วยเหลือ และจัดส่งงบฯไปให้ภายในเดือน ม.ค.นี้ พร้อมทั้งจะตั้งผู้บริหารที่เป็นผู้แทนจากต้นสังกัดเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบโรงเรียนไอซียูในแต่ละพื้นที่ด้วย.