หนาวนี้มาให้ธรรมชาติโอบกอดที่เขาค้อ

หนาวนี้มาให้ธรรมชาติโอบกอดที่เขาค้อ

เขาค้อดินแดนท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่บริสุทธิ์ ดอกไม้หลากสี ทะเลหมอก ไร่ผลไม้

วิถีชีวิตเผ่าม้ง และที่ขาดเสียไม่ได้คือต้นค้อที่เป็นเอกลักษณ์ที่มาของชื่อถิ่นนี้

เขาค้อ ตั้งอยู่ตำบลเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่สูงจากน้ำทะเล 1,290 เมตร มีอากาศเย็น และอากาศเย็นมากในช่วงฤดูหนาว เขาค้ออยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก เหมาะสำหรับผู้เหนื่อยล้าจากการทำงานในเมืองหลวงที่วุ่นวาย หนีฝุ่นควันมาซบธรรมชาติ รับรองว่าถ้าได้มาซักครั้งจะติดใจกับบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติกในเขาพงไพรแห่งนี้แน่นอน และที่สำคัญเขาค้อสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหนก็มาให้ธรรมชาติโอบกอดได้

รีสอร์ทที่นี่เป็นรีสอร์ทแนวอนุรักษ์ธรรมชาติส่วนใหญ่ คือใช้แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการบริหารจัดการ รีสอร์ทให้ความสำคัญกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีต้นไม้และดอกไม้รายล้อมรีสอร์ท เน้นความเรียบง่าย สงบ นักท่องเที่ยวจึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้อยู่กับธรรมชาติที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง

ไม่ใกล้ไม่ไกลนักจะพบวัดที่มีลักษณะอุโบสถโดดเด่นไม่เหมือนใคร บริเวณวัดมีอาณาเขตกว้างขวาง ผนังวัดประดับด้วยหินสีและเพชรพลอยจำลองหลากหลายสีสัน สามารถปิดทองลูกนิมิต และกราบไหว้พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ที่นั่งซ่อนกันถึง 5 องค์ เพื่อเป็นสิริมงคลของชีวิต

ตกเย็นหากไม่รู้จะไปที่ไหนไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่มีดอกไม้หลากสีสันห้อมล้อมคือหนึ่งในคำตอบที่ดี “เกษตรประณีต” คือการทำเกษตรแบบผสมผสานที่นอกจากจะปลูกสตรอว์เบอร์รี่แล้ว ยังปลูกดอกเสี้ยน ดอกบานชื่น ดอกเก๊กฮวย ดอกกระดาษ และคาโมมายล์ เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดจากต้นและถ่ายรูปคู่กับวิวทิวทัศน์ที่ตัดกับดอกไม้นานาชนิดได้อย่างลงตัว ตกเย็นก็จิบเก๊กฮวยร้อนๆ พร้อมชมพระอาทิตย์ตกดิน

หากผู้อ่านยังไม่มีแผนสำหรับวันหยุด เขาค้อคือหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจลำดับต้นๆ นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติ สูดอากาศแสนบริสุทธิ์ได้เต็มปอด มีกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติให้ได้เลือกทำตลอดทั้งวัน รับรองว่ามาเขาค้อไม่รู้สึกเบื่อแน่นอน ชาวบ้านกระซิบมาว่า “แต่ละฤดูคุณจะเห็นเขาค้อไม่เหมือนกัน” แต่จะเห็นเป็นแบบไหนนั้น ก็ต้องลองมาที่นี่ที่ “เขาค้อ”