'สมคิด'สั่งคลังเน้นจัดสรรหน่วยลงทุนกองทีเอฟเอฟให้รายย่อย

'สมคิด'สั่งคลังเน้นจัดสรรหน่วยลงทุนกองทีเอฟเอฟให้รายย่อย

“สมคิด” สั่งคลังจัดสรรหน่วยลงทุนกองทุนทีเอฟเอฟให้รายย่อยเป็นหลัก เพื่อให้เป็นทางเลือกแก่นักลงทุน พร้อมพิจารณาผลตอบแทนให้เหมาสม-สูกงกว่าตลาด

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายการเสนอขายกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย Thailand Future Fund:TFF แก่กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่ดูแลเรื่องดังกล่าวว่า การเสนอขายกองทุนทีเอฟเอฟดังกล่าว ควรจัดสรรให้นักลงทุนรายย่อยเป็นหลัก เพื่อให้รายย่อยได้มีทางเลือกการลงทุนมากขึ้น

“ผมมอบนโยบายเป็นการภายในแก่หน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้แล้วว่า เพราะผมต้องการให้รายย่อยมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่า คนที่จะเป็นผู้จัดการกองทุน เขาต้องการเสนอขายให้รายใหญ่ เพื่อให้ขายได้หมดในระยะเวลาที่รวดเร็ว แต่นโยบายของเรา คือ อยากให้รายย่อยเข้ามามีส่วนในการลงทุนนี้ให้มากขึ้น”

นอกจากนี้ ยังมอบนโยบายเรื่องการให้อัตราผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนด้วยว่า ควรพิจารณาให้อัตราผลตอบแทนที่เหมาะสมและควรจะสูงกว่าอัตราตลาด เพราะโครงการนี้ จะสามารถสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ดี สำหรับระยะเวลาการเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนทีเอฟเอฟ คาดว่า จะเปิดขายให้ราวเดือนมี.ค.

การจัดตั้งกองทุนทีเอฟเอฟ มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมเงินทุนจากผู้ถือหน่วยลงทุนและนำเงินที่ได้ไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เพื่อลดภาระการจัดสรรงบประมาณสำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ โดยระยะแรกการเสนอขายกองทุน จะมีโครงการลงทุนที่เปิดดำเนินการแล้วมาเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ กระทรวงคมนาคม กำลังพิจารณาจัดโครงการที่จะนำมาเป็นหลักทรัพย์ในการเสนอขาย

ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.ค.2559 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบรายละเอียดการจัดตั้งโครงสร้างกองทุนทีเอฟเอฟ ที่มีมูลค่ากองทุน 100,000 ล้านบาท โดยสคร.เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งกองทุน และคณะรัฐมนตรียังได้รับทราบโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้เข้าสู่กองทุนฯ ประกอบด้วย โครงการของกรมทางหลวง 2 โครงการ ได้แก่ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เส้นทางกรุงเทพ-บ้านฉาง และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครเส้นทางอยุธยา-พัทยา และโครงการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)ได้แก่ ถนนทางด่วนสายพระราม 3 ดาวคะนอง วงแหวนรอบนอก และยังมีโครงการอื่นสร้างเสร็จแล้วที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกทพ.

โดยรายละเอียดของการจัดตั้งกองทุนรวมฯ นั้น กองทุนรวมฯ มีลักษณะเป็นรวมโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะจัดตั้งภายใต้ประกาศและหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยเป็นกองทุนปิด (ไม่กำหนดอายุโครงการ) ส่วนโครงสร้างกองทุนรวมฯ ในระยะแรกให้กระทรวงการคลังลงทุน 10,000 ล้านบาท โดย 1,000 ล้านบาทแรกให้กระทรวงการคลังลงทุนและดำเนินการจัดตั้งกองทุนรวมฯ ทันที และ อีก 9,000 ล้านบาท จะนำมาจากการแลกเปลี่ยนหุ้นระหว่างกองทุนวายุภักษ์กับกองทุนรวมฯ ส่วนอีก 90,000 ล้านบาท จะเปิดขายหน่วยให้แก่นักลงทุน