โซลาริสจ่อใช้กม.บีบไอเฟคเคลียร์หนี้บีอี1,200ล้าน

โซลาริสจ่อใช้กม.บีบไอเฟคเคลียร์หนี้บีอี1,200ล้าน

“โซลาริส” เร่งเช็กบิลหนี้บีอีไอเฟค 1,200 ล้าน ใช้กฎหมายบังคับขายสินทรัพย์คืนหนี้ หวังประชุมผู้ถือหุ้น 25 ม.ค.ส่งผลดีกับเจ้าหนี้

ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน โซลาริส จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังคงติดตามหนี้ตั๋วเงินระยะสั้น (B/E) ของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ที่จะครบกำหนดชำระหนี้ภายในเดือนม.ค.60  คือวันที่ 19 ม.ค.60 วงเงิน 100 ล้านบาท และตั๋วบีอีงวดวันที่ 25 ม.ค.60 อย่างใกล้ชิด หลังจาก ไอเฟคผิดนัดชำระหนี้ไปแล้ว 200 ล้านบาท ทั้งนี้ โซลาริสมีเงินลงทุนในตั๋วบีอีกับ ไอเฟครวมทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท

สำหรับหนี้ที่ ไอเฟค ผิดนัดชำระตั๋วบีอี บลจ.โซลาริส ระบุว่าบริษัทก็เดินหน้าจัดการหนี้ โดยใช้วิธีทางกฎหมาย บังคับให้ไอเฟคต้องขายสินทรัพย์ที่มีออกไปเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ และคาดหวังการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ม.ค.นี้ จะเป็นประโยชน์กับเจ้าหนี้ ซึ่งไม่ใช่มีแค่ บลจ.โซลาริส แต่ยังมี บลจ.อื่นที่ประสบปัญหาเดียวกัน รวมถึงนักลงทุนรายบุคคลที่เข้าลงทุนโดยตรงด้วย 

ทั้งนี้ บลจ. โซลาริส ยืนยันว่า จะเร่งจัดการหนี้ และนำเงินมาคืนผู้ถือหน่วยให้เร็วที่สุด 

ผู้บริหาร บลจ.โซลาริส กล่าวว่า แนวทางการจัดการกองทุนของบริษัทปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะปรับกองทุนที่ไม่ใช่นักลงทุนรายย่อย หรือ AI ใหม่ให้เป็นลักษณะ“กองทุนเคลียร์หนี้สินแทน” โดยแนวคิดการจัดการหนี้สินดังกล่าว คือ แบ่งกองทุนออกเป็นกองทุนที่มีการผิดนัดชำระหนี้ และกองทุนที่ยังไม่มีการผิดนัดชำระหนี้

สำหรับกองทุนที่มีการผิดนัดชำระหนี้ของตั๋วบีอี บริษัทจะเดินหน้าทวงหนี้ตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อนำเงินดังกล่าวมาเคลียร์หนี้สินให้กับผู้ถือหน่วยให้หมดครบทุกบาท

ส่วนกองทุนที่ยังไม่เจอการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอี จะเข้าไปดูแลใกล้ชิดและคุมเข้มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ออกตั๋วบีอีต้องมีสภาพคล่องมากพอ และเตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉิน หากเกิดเหตุสุดวิสัย ผู้ที่ออกตั๋วบีอีก็สามารถนำเงินมาจ่ายคืนให้กับบริษัทที่ลงทุนในตั๋วบีอีนั้นๆ ได้ รวมถึงการเพิ่มหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อสร้างความมั่นใจ

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทจะไม่ออกกองทุน AI ใหม่ จนกว่าจะจัดการคืนเงินให้กับลูกค้าครบทุกกองทุนก่อน 

นอกจากนี้ ในส่วนของกองทุน AI ที่จะออกมาใหม่หลังจากเคลียร์เงินให้กับผู้ถือหน่วยหมดแล้ว บริษัทตั้งใจว่า จะไม่ออกกองทุนแบบ Rollover และยังคงเน้นลงทุนในตั๋วบีอีเช่นเดิม เพราะต้องเข้าใจปัญหาว่าที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากตัวธุรกิจแต่เป็นปัญหาภายในเป็นหลัก บริษัทจะเพิ่มความรู้ความเข้าใจให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในตั๋วบีอีนี้มากขึ้น