'ซีอีโอ'มองเศรษฐกิจปีนี้ยังทรงตัว แนะรัฐกระตุ้นลงทุน

นายกำพล ปัญญาโกเมศ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ CEO Survey ทิศทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี 2560 ว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูง (CEO) ในภาคอุตสาหกรรม ที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) จำนวน 49 ราย ระหว่างวันที่ 16 ธ.ค.2559 ถึง 17 ม.ค. 2560 พบว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2560 โดยผู้บริหารระดับสูง 34.69% มองว่า จะขยายตัว ขณะที่ 48.98% มองว่า ทรงตัว และ 16.33% มองว่า หดตัว ซึ่งผู้บริหารระดับสูงกว่า 70% มองว่า เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวในกรอบ 1-5%

ส่วนการคาดการณ์ของผู้บริหารระดับสูงต่อทิศทางแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมในปี 2560 พบว่า ผู้บริหารระดับสูง 30.61% มองว่า ภาคอุตสาหกรรมมีทิศทางขยายตัว ขณะที่ 46.94% มองว่า ทรงตัว และ 22.45% จะหดตัว โดยผู้บริหารระดับสูงกว่า 66% มองว่า ภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัวในกรอบ 1-5%

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงมีความกังวลในการดำเนินกิจการในปี 2560 คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ความผันผวนในตลาดการเงินโลกจากความไม่แน่นอนนโยบายของสหรัฐฯ การออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร กำลังซื้อในประเทศ ความเข้มงวดปล่อยสิ้นเชื้อของสถาบันการเงิน การขาดแคลนแรงงานฝีมือ และปัญหาสภาพคล่องของกิจการ

นายกำพล กล่าวว่า การสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงต่อสาเหตุที่การลงทุนภาคเอกชนยังคงขยายตัวได้ไม่มากเท่าที่ควรนั้น ผู้บริหารระดับสูง มองงว่า เกิดจากการขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ และขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโลก การส่งออกหดตัวต่อเนื่อง สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนและนโยบายกระตุ้นการลงทุนยังไม่เอื้ออำนวยพอ รวมถึงภาคเอกชนยังมีกำลังผลิตเหลือค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารระดับสูงมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนและขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี2560 เช่น ภาครัฐควรพัฒนาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลดต้นทุนและก้าวสู่ อุตสาหกรรม4.0 การออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนในหลายรูปแบบ การเร่งพัฒนาวางระบบโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม รวมถึงภาครับควรมีมาตรการกระตุ้นเศราฐกิจต่อเนื่อง สนับสนุนการขยายตลาดเข้าสู่หัวเมืองรองในกลุ่มซีแอลเอ็มวี การเจรจาการค้ากับประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ และพัฒนาการค้าชายแดน

ขณะที่ความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงต่อนโยบายของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ภาคอุตสาหกรรมมีความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย คือ นโยบายการกีดกันทางการค้าสำหรับสินค้านำเข้าจากจีน และเม็กซิโก ที่จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตและปริมาณการค้าโลก การปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเป็น 45% และดึงการลงทุนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ กลับไปผลิตในสหรัฐฯ เพื่อสร้างการจ้างงานในสหรัฐฯ ให้เพิ่มขึ้นจะกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย เป็นต้น

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เพื่อทำการสำรวจความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมให้ครอบคลุมในหลายด้าน โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี ซึ่ง ส.อ.ท.คาดหวังให้เป็นเครื่องมือสะท้อนมุมมองของผู้ประกอบการที่มีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนหนึ่งที่ภาครัฐจะนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป