อ่อนตัว จากปัจจัยการเมืองต่างประเทศ
เลือกเก็งกำไรรายตัว
สรุปภาวะตลาดวันทำการก่อนหน้า
ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดลบต่อเนื่อง นักลงทุนจับตาการแถลงแผนการออกจากอียูของนายกรัฐมนตรีอังกฤษในวันนี้
คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้
คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้ อ่อนตัว แนวรับ 1567/1558 จุด แนวต้าน 1575/1585 จุด โดยทิศทางตลาดหุ้นโลกเริ่มพักตัว ปัจจัยการเมืองต่างประเทศเป็นที่จับตาในสัปดาห์นี้ โดยตลาดกลับมามีความกังวลต่อประเด็น Brexit และการแถลงนโยบายในวันเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ของนายโดนัล ทรัมป์ ส่งผลนักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิหุ้นไทย จากที่ซื้อต่อเนื่องช่วงปลายปี-ต้นปีไปกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ส่วนปัจจัยในประเทศข่าวการชำระหนี้ตั๋ว BE ของ บจ. ยังกดดันบรรยากาศการลงทุนหุ้นขนาดเล็ก
สัญญาณเทคนิค สัญญาณขายจะเกิดขึ้นหากดัชนีฯหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ ที่ 1561 จุด โดยมีแนวรับต่อไปที่ 1541 จุด (SMA 25 wk) ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1593 จุด และ 1600 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญวันนี้
1) – นายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกลุ่มนอกโอเปก ไม่มีแนวโน้มที่จะขยายข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเกินกว่า 6 เดือนที่มีการกำหนดไว้ โดยเฉพาะขณะที่ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปี ด้านโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 235,000 บาร์เรล/วัน ในปีนี้ ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 8.95 ล้านบาร์เรล/วัน ในขณะนี้ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำกว่า 8.5 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว
2) +/- IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.4% ในปีนี้ ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือน ต.ค. (ดูรายละเอียดในเล่ม)
3) +/– สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund) คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่ง ได้ในเดือน มี.ค. 60
4) จับตานางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะแถลงเกี่ยวกับแผนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันนี้
กลยุทธ์
เลือกเก็งกำไรรายตัว กำหนดจุดตัดขาดทุนที่ 1560 จุด
หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค )
หุ้น laggard พื้นฐานดี ได้แก่ CK SEAFCO BJC HMPRO ERW BA TTA
