ดีแทคเปิดศึกมือถือ ดึงซุปตาร์แม่เหล็กพรีเซนเตอร์หลัก

ดีแทคเปิดศึกมือถือ ดึงซุปตาร์แม่เหล็กพรีเซนเตอร์หลัก

ค่ายมือถือแข่งเดือดร้บต้นปี หลังดีแทคใช้ยาแรงดึงตัวแม่วงการบันเทิง “อั้ม พัชราภา” รับหน้าที่เมเจอร์ พรีเซ็นเตอร์คนแรก

ตลาดโทรคมนาคมประเดิมปี 2560 ด้วยการแข่งขันที่มีทีท่าจะรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่“ดีแทค”เปิดตัวด้วยการดึงแม่เหล็กของวงการบันเทิง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ สัญญาร่วมกัน 1 ปี โดยจะต้องสื่อสารกับลูกค้าของดีแทคทั้ง 25 ล้านรายภายใต้ 3 คอนเซ็ปต์ คือ เน็ตเวิร์ค แบรนด์ และความคุ้มค่าในการใช้งาน

ดีแทคไม่เคยใช้พรีเซ็นเตอร์มาก่อน แต่คู่แข่ง 2 รายอย่าง “เอไอเอส” เลือก เจมส์ จิรายุ เป็นตัวแทนชีวิตดิจิทัล และ “ทรูมูฟ เอช” เลือก ณเดช และญาญ่า เป็นตัวแทนผู้ใช้งานต่างจังหวัด ชูจุดเด่นเรื่องสัญญาณ 4จีที่ครอบคลุมชวนให้แลกเครื่องใหม่ที่รองรับ 3จี และ4จี

ส่วนญาญ่า ชวนลูกค้าที่อยู่ในระบบ 2จีคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์มาเป็นลูกค้าทรูมูฟ เอช โดยการใช้พรีเซ็นเตอร์ของทรูมูฟ เอช หรือเบอร์ 3 ของตลาดดูเหมือนจะได้ผลเชิงการสร้างความรับรู้ในแบรนด์กับกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ทำให้เห็นว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทรูมูฟ เอชมีฐานลูกค้าเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และขยับเข้ามาใกล้ “ดีแทค” เบอร์ 2 อย่างหายใจรดต้นคอ ทิ้งห่างกันเพียงลูกค้าหลักแสนรายเท่านั้น

ด้วยปัจจัยเหล่านี้อาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ดีแทค ต้องยอมเปลี่ยนแนวทางการทำตลาด อาศัยพรีเซ็นเตอร์ ที่มีพลังสื่อสารและถ่ายทอดการใช้งานไปยังลูกค้าทั้งประเทศ

ยอดผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ ตัวเลขล่าสุดไตรมาส 3/2559 เอไอเอส 40 ล้านราย ดีแทค 25 ล้านราย และทรูมูฟ 23.8 ล้านราย

นายสิทธิโชค นพชินบุตร ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด ดีแทค กล่าวว่า สิ่งที่ดีแทคต้องการสื่อสารกับลูกค้าทั้ง 25 ล้านราย และลูกค้าทั่วประเทศคือ คุณภาพของโครงข่าย (เน็ตเวิร์ค ควอลิตี้) ที่ดีแทคให้ความสำคัญมาตลอด

แม้ดีแทคจะไม่ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ แต่ได้ลงทุนโครงข่ายกับคลื่นความถี่ที่มีอยู่จำนวน 55 เมกะเฮิรตซ์ที่อยู่ในสัญญาสัมปทานกับ บมจ.กสท โทรคมนาคม อย่างต่อเนื่อง แม้จะสิ้นสุดสัมปทานเดือนก.ย.2561 ทั้งนี้ กรอบเงินลงทุนของดีแทควางไว้ 70,000 ล้านบาทในช่วง 3 ปีคือ 2559-2561 โดยปีที่แล้วใช้ไปแล้ว 20,000 ล้านบาท

สำหรับการเลือกซูเปอร์สตาร์อย่าง “อั้ม พัชราภา” มาเป็นเมเจอร์ พรีเซ็นเตอร์คนแรก นายสิทธิโชค กล่าวว่า ด้วยเหตุผลที่ว่า อั้ม พัชราภามีภาพเป็นตัวแทนของผู้ที่สามารถสื่อสารไปยังลูกค้าของดีแทคทั้ง 25 ล้านรายได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ อั้ม พัชราภายังมีผู้ติดตามในอินสตราแกรมมากกว่า 7.5 ล้านราย ซึ่งดีแทคเชื่อว่าสามารถถ่ายทอดความเป็นดีแทคได้เป็นอย่างดี โดยแคมเปญ “ลื่นไหล กับดีแทค ซูเปอร์ 4จี ลื่นสุด กว้างสุด” ใช้งบ 150 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดอย่างหนักในช่วง 3 เดือนนี้ ส่วนค่าตัวของอั้ม พัชราภา ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่มีสัญญากับดีแทค 1 ปี

“คีย์หลักที่ดีแทคต้องการจะสื่อคือเรื่องเน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเรา และการเลือกอั้ม พัชราภามาเราเชื่อว่าสื่อไปถึงลูกค้าได้ดีที่สุด และครอบคลุมมากที่สุด โดยหลังจากที่โปรโมตเรื่องเน็ตเวิร์คแล้ว ต่อไปจะเป็นเรื่องแบรนด์ และความคุ้มค่าในเรื่องการใช้งาน (Value for money)”

ดาต้า วีดีโอ-ไลฟ์สดทำลูกค้าเปลี่ยน
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า จากปีที่ผ่านมาพบว่าพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือเปลี่ยนแปลงไป โดยพฤติกรรมการใช้งาน 4จี เติบโตขึ้นจากการใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ เช่น การใช้เฟซบุ๊คด้วยการแชร์ข้อความและรูปภาพแบบเดิม ได้เพิ่มขึ้นด้วยการแชร์วีดีโอ และไลฟ์ ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่

เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วพบว่าเติบโตสูงขึ้นเกือบ 150% ผลมาจากกระแสของเฟซบุ๊ค ไลฟ์ ในส่วนพฤติกรรมการโทรแบบเดิมผู้ใช้งานจะเพิ่มการใช้งานโทรผ่านวีโอไอพีหรือการโทรผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นราว 200% เทียบจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

สำหรับการใช้งานคอนเทนท์ต่างๆ เช่น การรับชมคอนเทนท์ผ่านยูทูบ ทำให้อัตราการใช้ยูทูบเติบโตขึ้นเกือบเท่าตัว นอกจากนี้ยังพบว่า 6 เดือนที่ผ่าน การฟังเพลงผ่านมือถือ มิวสิค สตรีมมิ่ง ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นกว่า 150%

เผยผลสำรวจผู้ใช้งานมีตัวเลขดีขึ้น
นอกจากปัจจัยความเร็วและแรงที่นับเป็นพื้นฐานของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ทุกแบรนด์ ดีแทคยังพัฒนาด้านคุณภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการแบบ “Never off-line” ของผู้บริโภคให้ได้รับประสบการณ์ดิจิทัลของลูกค้าอย่างเข้าใจและมีความลื่นไหลในการใช้งานสูงสุด ที่ผ่านมาโดยได้ร่วมมือกับอีริคสัน และเฟซบุ๊ค ยกระดับคุณภาพแอพพลิเคชันด้วยการทำ Application optimization เพื่อเจาะลึกถึงคุณภาพของการใช้งานจริงในสถานการณ์ต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งาน

โครงการดังกล่าวได้วัดค่าต่างๆ จากผู้ใช้งานเฟซบุ๊คบนโครงข่ายดีแทคเพื่อทดสอบผ่านอุปกรณ์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ใช้งานสูง และมีจำนวนคนใช้งานหนาแน่น เพื่อนำผลมาปรับเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ใช้งานในทุกสถานการณ์ของผู้ใช้งานดีแทค โดยรวมผลลัพธ์ที่ได้ในการยกระดับคุณภาพแอพพลิเคชันเฟซบุ๊ค ผู้ใช้งานของดีแทคมีประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้น 60%

ปิดดีลทีโอทีเป็นพาร์ทเนอร์คลื่น 2300
นายลาร์ส กล่าวว่า ดีแทคดีให้ความสำคัญลงทุนโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง แต่ยังตอบไม่ได้ว่าไตรมาส 4/2559 มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเท่าไร และยังเป็นผู้ให้บริการอันดับที่ 2 ได้หรือไม่ ดังนั้น จึงไม่ให้ความสำคัญของการจัดลำดับผู้ให้บริการในประเทศไทย แต่จุดยืนยังคงให้ความสำคัญการขยายโครงข่ายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง

ปีที่ผ่านมา ดีแทคขยายจำนวนสถานีฐานของการให้บริการ 4จีบนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 10,000 แห่ง และมีสถานีฐานในระบบ 4จี รวมทั้งคลื่น 1800 และ 2100 เมกะเฮิรตซ์ รวม 20,000 แห่ง และบริการ 3จี บนคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ และ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จำนวน 30,000 แห่ง

ขณะเดียวกัน ดีแทคยังมั่นใจเรื่องคลื่นความถี่และยังต้องการให้หน่วยงานภาครัฐบริการจัดการเกี่ยวกับแผนคลื่นความถี่ออกมาให้ชัดเจน ซึ่งคาดว่าในไตรมาส1/2560 ดีแทคจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ บมจ.ทีโอที เกี่ยวกับแผนธุรกิจการให้บริการคลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิรตซ์

นอกจากนี้ดีแทคยังเตรียมพร้อมกับแนวทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่จะนำคลื่นความที่ของดีแทค ที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานวันที่ 30 ก.ย. 2561 ซึ่งคาดว่า กสทช.จะนำคลื่นดังกล่าวมาจัดสรรและประมูลต่อไป ขณะที่คลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ที่กสทช.จะนำมาประมูล ดีแทคสนใจเข้าร่วมประมูล

รายงานข่าวแจ้งว่า ทีโอทีได้ส่งแผนการใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิรตซ์ ถึง กสทช.โดยแผนดังกล่าว ทีโอทีแจ้งความประสงค์ที่จะใช้คลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 60 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อนำไปให้บริการ 3 บริการ ได้แก่ 1. บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สาย 2.บริการโมบายบรอดแบนด์ และ 3.บริการความจุโมบายบรอดแบนด์ให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายเสมือนแบบไม่มีโครงข่าย