Energy Outlook (13 ม.ค.60)

Energy Outlook (13 ม.ค.60)

กลุ่มโรงกลั่นเด่น

เลือก IRPC เป็น Top Pick กลุ่มพลังงาน

• คาดราคาน้ำมันไตรมาส 1/60 อยู่ที่ 48-54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

• คาดค่าการกลั่นไตรมาส 4/59 ปรับตัวขึ้น 1-2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

• คาดราคาถ่านหิน ไตรมาส 1/60 อ่อนตัวลงสู่ 75-80 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อตัน

• PTTEP แนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสมใหม่ 97 บาท

• IRPC แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 5.85 บาท 

• BANPU แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 21.75 บาท

- แนวโน้มราคาน้ำมัน-ทรงตัว – คาดราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในกรอบ 48-54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจาก EIA คาดว่าอุปทานและอุปสงค์ของน้ำมันในตลาดโลกจะเข้าสู่จุดสมดุลในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ที่ระดับ 97.75 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากอุปทานมีแนวโน้มลดลงหลังโอเปกบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันสู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งนับเป็นการบรรลุข้อตกลงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2551 อีกทั้งกลุ่มนอกโอเปกตกลงปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล(สูงที่สุดในรอบ 18 เดือน) ส่งผลให้จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 10 สัปดาห์สู่ระดับ 529 แท่นขณะที่การสำรวจและการผลิตน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 27% เป็นปัจจัยกดดันต่อราคาน้ำมันให้ปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัด

- ค่าการกลั่นไตรมาส 4/59 ปรับตัวขึ้น – ฝ่ายวิจัยคาดค่าการกลั่นไตรมาส 4/59 เพิ่มขึ้น 1-2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากไตรมาสก่อน เนื่องจาก Spreadน้ำมันอากาศยาน Spreadน้ำมันดีเซล Spreadน้ำมันเตา และ Spreadน้ำมันเบนซินปรับตัวดีขึ้น 10%QoQ 15%QoQ 39%QoQ และ28%QoQ ตามลำดับ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่มีความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสร้างความอบอุ่น นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในไตรมาส 4/59 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเพิ่มขึ้น 21% QoQ หลังโอเปกบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมัน ส่งผลให้ค่าการกลั่นตามบัญชี (รวมกำไร/ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันดิบ) มีแนวโน้มสูงกว่าค่าการกลั่นปกติซึ่งจะเป็นผลบวกต่อกลุ่มโรงกลั่นทั้งกลุ่ม ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรไตรมาส 4/59 ของกลุ่มโรงกลั่นจะเติบโตQoQ และสูงกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้จากแรงหนุนของกำไรสต๊อกน้ำมันดิบ แต่เรายังคงประมาณการกำไรปี 60 ตามเดิมเนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันดิบปี 60 จะไม่ปรับตัวขึ้นมากเท่าปี 59 เนื่องจากแท่นขุดเจาะในสหรัฐเริ่มกลับมาทำการผลิตเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาน้ำมัน

- แนวโน้มราคาถ่านหิน – คาดราคาถ่านหินไตรมาส 1/60 จะค่อยๆ ปรับตัวลงมาสู่ระดับ 75-80 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อตันหลังจากทางการจีนปรับเพิ่มเวลาทำงานของทุกเหมืองถ่านหินเพิ่มเป็น 330 วัน/ปี จากก่อนหน้านี้กำหนดให้เพียงเหมืองที่ได้มาตรฐานสามารถดำเนินการผลิตได้ 330 วัน/ปี ส่วนเหมืองที่ไม่ได้มาตรฐานจะสามารถผลิตได้เพียง 276 วัน/ปี ซึ่งจีนเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ของโลกราว 4.5 พันล้านตันคิดเป็นสัดส่วน 50% ของกำลังการผลิตทั่วโลก ดังนั้นการที่ทางการจีนเพิ่มจำนวนวันทำงานของเหมือนถ่านหินเพิ่มขึ้นจะเพิ่มอุปทานเข้ามาในตลาดกดดันต่อราคาถ่านหินโลก

PTTEP : ได้รับผลบวกราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นแต่ถูกกดดันจากกำลังการผลิตที่ลดลง

- ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจผลิตของ PTTEP หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลส่งผลให้ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยปรับตัวขึ้น และบริษัทยังคงเดินหน้าลดต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่องช่วยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม ล่าสุด(ณ เดือนก.ย.59) ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (Cash cost อยู่ที่ 12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล) อย่างไรก็ตามเรามีความกังวลเกี่ยวกับแผนการผลิตและแผนการลงทุนใน 5 ปีข้างหน้า คาดว่ากำลังการผลิตจะลดลงจาก 320 พันบาร์เรลต่อวันในปี 59 สู่ 300 พันบาร์เรลต่อวันในปี 62 และจะลดลงอย่างมากในปี 63-64 สู่ระดับ 276 และ 263 พันบาร์เรลต่อวันตามลำดับ เนื่องจากไม่ได้รวมสัมปทานใหม่จากแหล่งบงกช และโครงการใหม่จะเริ่มผลิตตั้งแต่ปี 64 เป็นต้นไป ฝ่ายวิจัยจึง แนะนำเพียง “ถือ” ที่ราคาเหมาะสมใหม่ 97 บาท (ปรับเพิ่มจาก 86 บาท) จากผลบวกของราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น

IRPC : ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นและกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบช่วยหนุนผลประกอบการ

- คาดผลประกอบการไตรมาส 4/59 จะเติบโตขึ้นจากโครงการ UHV สามารถเดินเครื่องได้เต็มไตรมาส อีกทั้งค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้นราว 1-2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสู่ระดับ 14-15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากการปรับตัวขึ้นของส่วนต่างน้ำมันเตา และส่วนต่างน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวขึ้น 39%QoQ และ 28%QoQ ตามลำดับ นอกจากนี้เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ช่วยหนุนผลประกอบการ ฝ่ายวิจัยคาดกำไรไตรมาส 4/59 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/59 แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 5.85 บาทเนื่องจากเป็นกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบซึ่งคาดว่าในปี 60 กำไรดังกล่าวจะลดลงหากราคาน้ำมันไม่ปรับตัวขึ้นแรง

BANPU : ทำสัญญาขายถ่านหินล่วงหน้า 40% ของปริมาณการผลิตที่ราคาเพิ่มขึ้นราว 35-45% จากปี 59

- เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการของ BANPU หลังราคาถ่านหินไตรมาส 4/59 ปรับตัวขึ้นมาสู่ระดับ 78-115 ดอลลาร์ต่อตันเพิ่มขึ้นจากต้นปี 59 ราว 93% ซึ่งทางบริษัทได้ปรับราคาขายถ่านหินล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 35-45% จากปี 59 ที่ 46 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งทำสัญญาไปแล้วราว 40%ของปริมาณการผลิต และจะเพิ่มขึ้นเป็น 80%ของปริมาณการผลิตในช่วงต้นปี 60 เป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้ผลประกอบการปี 60 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้โรงไฟฟ้าหงสาจะทำการผลิตครบทั้ง 3 เฟสเต็มปีจะช่วยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปี 59 ที่ 1.1 พันล้านบาทเติบโต 139%YoY และจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 60 ราว 690%YoY สู่ 9 พันล้านบาท เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 21.75 บาท